ตอนที่ 12
คุณพระวนาเทพมองปืนไฟพกพาตาเป็นประกาย ครั้นเพื่อนกลับไปแล้ว เขาหยิบปืนขึ้นมาเล็งตัวเองจะเหนี่ยวไก ชดพ่อของหยดเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน เขาขอร้องชด ช่วยปล่อยให้เขาได้ชดใช้บาปที่เขาก่อด้วยเถิด
“ไม่ได้นะขอรับ คุณพระอย่าทำร้ายตัวเองเยี่ยงนี้อีกเลย กระผมขอถวายผ้าเหลืองแลกชีวิตนะขอรับ จะกี่ภพกี่ชาติกระผมขอตามขอลบล้างมลทินนี้”...
ในขณะเดียวกัน ผีหยดยังคงนอนกอดโครงกระดูกแม่เยื้อนอยู่ใต้ต้นไม้ในตำนาน เห็นทางหางตาว่าวิษณุเดินใกล้เข้ามา ดีใจน้ำตาร่วงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“คุณพระ...คุณพระมาหาบ่าวรึเจ้าคะ” ผีหยดคลานเข้าไปกอดขาวิษณุแต่กลับคว้าได้เพียงลม ลองอีกครั้ง ยังคงจั่วลมเช่นเดิม ครั้นเธอเงยหน้าขึ้นมองต้องตกใจเมื่อเห็นวิษณุบวชเป็นพระภิกษุนุ่งเหลืองห่มเหลือง
“คุณพระ เหตุใดทิ้งอีหยดไปอีกคนเล่าเจ้าคะ”
“อาตมาจะสวดมนต์ภาวนาช่วยโยมหยดทุกวัน จนกว่าโยมหยดจะเป็นอิสระ บาปกรรมใดๆที่อาตมาเคยทำไว้กับโยมหยด อาตมาขอแลกผ้าเหลืองถวายชีวิตชดใช้ให้โยมหยดนะ”
ผีหยดอยากรู้ว่าต้องสวดภาวนากี่บทกี่กัณฑ์ ต้องชดใช้อีกเท่าไหร่ เธอถึงจะได้หลุดพ้นจากที่นี่ ชีวิตของเธอแม้นเมื่อมีลมหายใจก็มีชีวิตเยี่ยงทาส เมื่อตายไปแล้วยังถูกกักขังทรมานไม่รู้จักจบสิ้น เธอเทียวกราบกระดูกแม่เยื้อนทั้งเช้าทั้งค่ำแต่ก็ไม่ได้รับการอภัยโทษ
“บ่าวไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ทุกคืนทุกวันที่เลื่อนผ่านเหมือนมีแต่คืนเดือนมืด แต่บาปของอีหยดมันคงหนานัก เทวดาชั้นฟ้าจึงมิอาจจะอภัย”
“อาตมาเชื่อว่าวิญญาณแม่เยื้อนรับรู้แล้วนะ ในสิ่งที่โยมหยดกระทำ”
“หากรับรู้ เหตุใดบ่าวจึงยังติดอยู่ที่นี่เล่า หากแม้นมิอภัยเยี่ยงนั้น สู้ผลักบ่าวให้ตกนรกหมกไหม้ไปเสีย ก็ยังดีกว่าที่จะติดอยู่ในเรือนแห่งนี้
พระวิษณุขอให้ผีหยดอดทนอีกสักนิด วันหนึ่งเธอจะเป็นอิสระจากที่นี่และจากทุกอย่าง เธอได้แต่ก้มหน้าช้ำใจกับชะตากรรมที่ไม่อาจหลุดพ้น พระวิษณุมองเธอด้วยความเวทนาก่อนเดินจากมา
ooooooo