ตอนที่ 12
สายวันถัดมา วิษณุที่เพิ่งมาถึงบริษัทรู้เรื่องช่องให้แก้สี่ตอนแรกของละครนางบาปจากรินกับบอลที่นั่งตัดต่อเทปละครใหม่ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้กลับบ้านก็ไม่พอใจที่ช่องก้าวก่าย
“พี่จะไปคุยกับเขาเอง พี่อยากคุยตอนจบละครเรื่องนี้กับเขาอยู่พอดี” พูดจบวิษณุผลุนผลันออกไป บอลถามเสียงอ่อยจะเอาอย่างไรต่อดี รินเองก็ไม่รู้จะตามใจใครดีเหมือนกัน...
จากนั้นไม่นาน วิษณุมาขอพบกับคุณไอริณเพื่อทักท้วงเรื่องแก้ไขบทใหม่สี่ตอนแรก และจะขอเปลี่ยนตอนจบใหม่อีกด้วย แต่เธอไม่ยินยอมให้เขาทำตามอำเภอใจ ต้องทำตามที่ช่องสั่งเท่านั้น...
ในเวลาเดียวกัน ที่ใต้ต้นไม้ในตำนานหน้าตึกวนาเทพ ผีหยดนั่งเหม่อใจลอยเพียงลำพัง
“อีหยาด เอ็งเคยอยู่กับข้าทุกเมื่อเชื่อวัน ข้าเคยชังน้ำหน้าเอ็งนัก เกลียดถ้อยคำพร่ำสอนของเอ็ง แต่เอ็งเห็นไหม ตอนนี้ที่นี่มันช่างเงียบเหลือเกิน ข้าอยากได้ยินเสียงเอ็ง อยากให้เอ็งอยู่กับข้า ข้าไม่รู้ต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันเล่า”
ผีหยดก้มหน้าเช็ดน้ำตา ครั้นเงยหน้าขึ้นอีกทีเห็นหลวงพ่อยืนอยู่ตรงหน้า เรียกชื่อเธอได้ถูกต้อง เธองงมากเหตุใดท่านถึงรู้จักเธอแล้วมาหาเธอทำไม ท่านมาเพื่อบอกความจริงบางอย่างกับเธอ
“ความจริงรึ ยิ่งฉันรับรู้ความจริงฉันยิ่งเจ็บปวด ทั้งคำสาปของแม่ ทั้งดวงใจที่บิดเบือนของคุณพระ ฉันไม่ต้องการความจริงที่นำพาแต่ความเจ็บปวดเยี่ยงนั้นอีกแล้ว”
“โปรดฟังที่อาตมาจะบอกเถิด ดวงใจของโยมจะตื่นรู้และไม่ต้องทนทุกข์ติดกับชั่วกัปชั่วกัลป์ในที่แห่งนี้อีกต่อไป...ยังมีความจริงที่โยมไม่ได้เห็นซ่อนอยู่อีกมากมาย ความจริงที่ว่าแม่ของโยมรักโยมมากขนาดไหน”
จากนั้นเรื่องราวในอดีตแต่ชาติปางก่อนก็พรั่งพรูออกจากปากหลวงพ่อซึ่งระลึกชาติได้ว่าตัวเองคือชด
พ่อที่รักหยดมากแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆก็ตาม ตอนนั้นแม่เยื้อนคลอดหยดออกมา นายแม่รู้เรื่องก็ตามมาอาละวาดถึงเรือนบ่าว สั่งให้หมอตำแยเอาหยดไปถ่วงน้ำ แม่เยื้อนขอร้องอย่าเอาลูกของตนไปเลย
“ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉัน แต่เห็นแก่เด็กเถิดนะ มันไม่ได้ผิดอะไร ครึ่งนึงของมันก็มีเลือดเนื้อเชื้อเดียวกับ...” แม่เยื้อนพูดไม่ทันจบนายแม่ตบหน้าหัน
“เอ็งคงคิดว่าผัวข้าจะนับมันเป็นลูกสินะ ชิงคลอดก่อนข้านี่คงหมายจะมัดมือและแต่งตั้งตัวเองเทียมข้า”