ตอนที่ 12
ในเมื่อเล่นงานเจ้าสัวกับเมียใหม่ไม่ได้ นายแม่ใช้แม่เยื้อนซึ่งบอบช้ำหนักเป็นที่ระบายอารมณ์สั่งให้บ่าวเอาน้ำสาดหน้าแล้วจิกหัวขึ้นมาด่า
“เอ็งกับอีบัวนั่นไม่ต่างกันสักนิด อีพวกบัวใต้น้ำทาสต่ำตมอย่างพวกเอ็งดีแต่คิดหาทางใฝ่สูง หาทางจะกดหัวข้าลง รู้ไว้ไม่มีทางค้ำหัวข้าได้ สาดน้ำใส่มันอีก”
บ่าวเอาน้ำสาดแม่เยื้อนตามคำสั่ง เธอลืมตาแทบไม่ไหว พึมพำเบาๆ
“มิเคย...เปลี่ยน...บางอย่าง...มิเคยเปลี่ยน”
แม่เยื้อนนึกถึงครั้งแรกที่ถูกเรียกตัวไปรับใช้เจ้าสัวโดยที่ตัวเองไม่เต็มใจ นายแม่ยังคงใช้เธอเป็นที่ระบายอารมณ์แค้น เข้าไปบีบหน้า
“ข้าจะเอาคืนให้หมดทุกความเจ็บช้ำที่เอ็งทำไว้กับข้าและลูกข้า พูดความจริงมาใครที่เป็นคนฆ่าลูกข้ากันแน่”
“คุณเจ้าขา อภัยให้ฉันและลูกของฉันเถิด ไหนๆมันก็ตายไปแล้วอย่าจงเกลียดจงชังกันอีกเลย”
“เอ็งสั่งสอนข้ารึ ต่อให้มันตายไปแล้วข้าก็จะหาวิธีจองจำมัน แผดเผามัน ใคร...มันคือใคร อีหยดหรืออีหยาดกันแน่” นายแม่เห็นแม่เยื้อนปิดปากแน่นไม่พูดอะไร “ดี...ดีเหลือเกิน ในเมื่อเอ็งไม่พูด ข้าก็จะถือว่าเอ็งผิด ลงโทษสถานเบาให้เอ็งก็แล้วกัน...จับมันฝังทั้งเป็น มันต้องทรมานที่สุด เจ็บช้ำที่สุด เจ็บให้เท่าที่ข้าเจ็บ อย่าให้มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้ และถ้าใครปากดีก็ฝังมันลงไปพร้อมกันให้หมด” นายแม่หัวเราะราวกับคนบ้า...
ผีหยดขุดหลุมข้างศพตัวเองและหยาดลงไปกระทั่งเจอโครงกระดูกของแม่ ก้มลงกอดร้องไห้โฮ
มีเสียงหลวงพ่อดังขึ้น “โยม เราสูญเสียกันมามากเหลือเกิน โยมจะคิดเห็นหนทางอย่างไรเพื่อหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ก็สุดแท้แต่หัวใจของโยมเถิดนะ”
ooooooo
ทั้งต้นและวิษณุต่างนิ่งกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่ฝ่ายหลังจะพูดขึ้นอีกครั้งทำลายความเงียบ
“ต้นรู้ไหม พี่ฝันร้ายทุกคืน พี่ยังคงเห็นภาพหยาด กำไล ตอนสิ้นใจทุกคืน”
“พี่ณุครับ ผมจองทริปยุโรปไว้แล้วนะ เราไปเที่ยวสักพัก พี่ณุจะได้ลืมเรื่องทั้งหมดนี้นะครับ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นครับพี่” ต้นมองวิษณุด้วยสายตาเปี่ยมรัก
แต่เขากลับมีสีหน้าเลื่อนลอยไม่รับรู้ไม่รู้สึกอะไร ทำให้ต้นอดเป็นกังวลไม่ได้...
วิษณุหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อตอนรุ่งสางนี่เอง เสียงเคาะประตูห้องรัวๆปลุกให้เขาลุกขึ้นมองไปที่ประตู อึดใจบอลเปิดประตูเข้ามาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขากลับย้อนถามว่ามีอะไร
“คือวันนี้เรามีประชุมคิวสุดท้ายอ่ะพี่ นัดสิบเอ็ดโมง ผมก็เลย...”
ผู้กำกับหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาติดผนังเห็นบอกเวลาเที่ยงตรง “โทษทีบอล เดี๋ยวพี่ลงไป”