ตอนที่ 15
หลุดออกจากราวกั้น ทั้งคนทั้งราวร่วงจากดาดฟ้าลงไปกระแทกพื้น
ปิ่นปักวิ่งเข้าไปดูแลนพ ทั้งสองกอดกันกลมดีใจที่รอดตาย...
ครู่ต่อมานพประคองปิ่นปักออกจากตัวตึกร้าง แดน นิคกี้กับกิ๊บกรูกันเข้ามาพร้อมกับตำรวจที่แยกย้ายไปดูร่างไร้วิญญาณของธนู แดนถามทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วงว่า
“พวกพี่เป็นอย่างไรบ้าง”
“ฉันมันดวงแข็ง ตายยาก” นพว่าแล้วทุบที่อกข้างซ้ายตรงกับหัวใจ พวกแดนยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ นพถามนิคกี้ว่ายังมีเวลาหรือเปล่า
“เวลาน่ะมี แต่แขกกลับไปหมดแล้ว”
นพมองปิ่นปัก กลัวผิดหวังที่ไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน
“ฉันแต่งกับคุณ มีคุณคนเดียวก็พอแล้ว”
ปิ่นปักยิ้มให้ นพยิ้มรับพอใจที่เธอพร้อมจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาต่อ รีบจูงมือเธอไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ แดนบอกนิคกี้กับกิ๊บ
“ไปทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวกัน”
ทุกคนรีบตามเจ้าบ่าวเจ้าสาวไป...
จากนั้นไม่นาน สองบ่าวสาวจูงมือกันกลับมาที่บริเวณจัดงานแต่ง เมย์เอาดอกไม้ช่อใหม่มายื่นให้ปิ่นปัก ขณะที่นพไปยืนรอบริเวณทำพิธีโดยมีแดนจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้ เมย์ เอ๋กับธารา แม่เล็กกับเพิ่ม กระเจี๊ยบกับเปรี้ยวและคนอื่นๆมายืนเข้าแถวคอยโปรยดอกไม้
ปิ่นปักเดินผ่านแถวต้อนรับของทุกคนที่คอยโปรยกลีบดอกไม้แสนสวยไปหานพที่ยืนรออยู่
จากนั้นทั้งคู่ก็จูบกันท่ามกลางเสียงตบมือแสดง
ความยินดี
แม้จะเหลือแค่เพื่อนๆและญาติสนิทเพียง
ไม่กี่คนที่อยู่ร่วมงานแต่ง แต่บรรยากาศในงานกลับอบอุ่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก
ooooooo
นพ ปิ่นปักและธารามาที่เรือนจำ ติดต่อขอเยี่ยมเปลวในเช้าวันต่อมา ผู้คุมขอให้ญาติรอสักครู่ ตอนนี้เปลวกำลังช่วยงานเจ้าหน้าที่อยู่ ทั้งสามคนต่างมองหน้ากันแปลกใจว่าเขาช่วยงานอะไร
งานของเปลวคือเป็นวิทยากรสมัครเล่น
เล่าประสบการณ์ชีวิตเพื่อเป็นกำลังใจให้เหล่านักโทษของที่นี่
“ชีวิตของคนเราก็ไม่ต่างจากตัวละครในหนังหรือละคร เรามีหน้าที่แสดงตามบทบาทที่ตัวเอง
ได้รับ มีความทุกข์ ความสุข บทโศก แต่ผมเชื่อว่า
พวกเราส่วนใหญ่ในที่นี้จะผ่านบทบู๊มาเยอะ”
คำพูดของเปลวเรียกเสียงหัวเราะจากนักโทษสนั่นหอประชุมเพราะทุกคนเคยเป็นอย่างที่เขาพูด นพ ปิ่นปักและธาราเดินเข้ามาหยุดฟังอยู่ที่มุมห้อง เปลวพูดเพิ่มเติมว่า
“ไม่ว่าจะสวมบทอะไร ไม่มีใครคนไหนอยู่กับบทบาทนั้นได้จนตาย ลองเล่นกันใหม่ไหม
ยังมีบทอื่นๆให้เราเล่นอีกเยอะ ยังมีบทของลูกชายกตัญญูเลี้ยงดูพ่อแม่ บทของพ่อที่รักและคอยปกป้องลูก บทของสามีที่ทำงานแล้วกลับมาบ้านนั่งกินข้าวพร้อมหน้าเมียและลูก”
นักโทษคิดคล้อยตามเริ่มนึกถึงครอบครัวของตัวเอง ขณะที่นพ ปิ่นปักและธาราฟังสิ่งที่เปลวพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากเล่นบทบาทอะไรให้นึกถึงตอนจบของหนังเรื่องนั้น”