ตอนที่ 15
ธนูซ่อนตัวอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่ง สีหน้าเป็นกังวลเนื่องจากถูกตำรวจหมายหัว มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เขาคว้าปืนขึ้นมากระชับ ปรากฏว่าคนเคาะคือเฮีย เขาถึงกับถอนใจโล่งอก รีบเปิดประตูรับ เฮียรายงานว่าให้คนไปตามสืบพวกนพแล้ว ยังไม่มีใครกลับไปที่ค่ายมวยจ่าเฉื่อย ธนูตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อเฮีย
“ต้องรอให้ตำรวจมาจับพวกเราก่อนหรือไง ถึงจะเจอพวกมัน”
“ฉันยังสั่งให้พวกมันเฝ้าที่ค่ายมวย มีอะไรคืบหน้ามันจะบอกฉันทันที”
“แล้วไอ้เปลวมันเป็นยังไง” ธนูผลักเฮียออกห่าง
“คดียาวเป็นหางว่าว มันติดคุกตลอดชีวิต”
“แค่ทรมาน ขาดอิสรภาพ มันน้อยเกินไป”
“ฉันมีพวกอยู่เรือนจำเดียวกับมัน พี่จะให้ฉันทำอย่างไร”
“ฆ่ามัน” ธนูขบกรามแน่นยังแค้นเปลวไม่หาย...
เฮียเห็นธนูอยากให้เปลวตายไวๆ จึงสั่งการให้คนของตัวเองสองคนที่อยู่ในคุกเดียวกับเปลวหาทางจัดการเขาให้เร็วที่สุด นักโทษพวกเฮียเห็นเปลวกินอาหารเสร็จลุกจากโต๊ะเอาจานไปล้าง ลุกตาม รอจังหวะที่เขาล้างจานเสร็จจะเอาไปคว่ำ แกล้งขัดขาเปลว สะดุดล้มจานตกพื้น หันมองคนกลั่นแกล้ง
“มองหน้าจะเอากับกู” นักโทษพวกเฮียจ้องหน้าหาเรื่อง เปลวไม่อยากยุ่งด้วยยอมรับผิดเสียเอง
“ฉันเดินไม่ดูเอง ฉันขอโทษ” เปลวก้มหน้าก้มตาเก็บจาน
นักโทษคนที่ขัดขามองสบตาเพื่อนนักโทษอย่างรู้กัน มันชักช้อนที่ปลายถูกฝนจนแหลมออกจากเอวจะแทงหลังเปลว แต่ผู้คุมเดินเข้ามาเสียก่อน ถามว่ามีอะไรกัน นักโทษคนที่ถือช้อนแอบเอามันทิ้งในอ่างล้างจานที่มีฟองอยู่เต็มพร้อมกับบอกผู้คุมว่าไม่มีอะไร พวกเรากำลังช่วยเปลวเก็บจาน ผู้คุมไม่ไว้ใจสั่งให้นักโทษที่ถือช้อนมายืนใกล้ๆ แล้วตรวจค้นตามร่างกายไม่พบสิ่งผิดปกติเนื่องจากมันเอาอาวุธทำเองทิ้งไปแล้ว
เปลวเพิ่งตระหนักถ้าผู้คุมไม่เข้ามาเขาคงกลายเป็นผีเฝ้าคุกไปแล้ว ผู้คุมปรามนักโทษพวกเฮียกลายๆ
“คดีเก่าติดหัวโตแล้ว อย่าหาเรื่องอีก”
พวกนักโทษสองคนนั่นมองหน้าเปลวก่อนเดินจากไป ผู้คุมเตือนเขาอยู่ห่างๆพวกมันเอาไว้ พวกนี้เป็นมาเฟียขาใหญ่ที่นี่ เขาขอบคุณผู้คุม มองตามพวกนักโทษที่เดินจากไปสีหน้าเป็นกังวล
ooooooo
นพกับปิ่นปักมาเยี่ยมเปลวตอนสายวันถัดมา รู้เรื่องที่มีนักโทษจะทำร้ายท่านก็พากันตกใจ โดยเฉพาะปิ่นปักเตือนท่านระวังตัวให้มากๆ
“ผู้คุมเขาคอยช่วยดูแล คงไม่เกิดเรื่องอีก” เปลวพูดแบบนี้เนื่องจากไม่อยากให้ปิ่นปักเป็นห่วง
“ท่านทราบไหมครับพวกที่ทำร้ายเป็นใคร”