ตอนที่ 2
เจ้าจ้อยวิ่งเข้าไปในโรงเรือนหมายได้พบบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสามคน แต่ได้พบเพียงอ่อนคำคนเดียว ไร้เงาของเจ้าพ่อกับเจ้าแม่ เมื่อซักถามถึงท่าน อ่อนคำกับยุพราชก็เอาแต่อ้ำอึ้ง กระทั่งพสุเดินตามเข้ามาได้ยินจึงพูดเร่ง
“ยืนอ้ำอึ้งกันอยู่ทำไม เจ้าหลวงกับมหาเทวียังมาไม่ถึง ทำไมถึงไม่บอกอ่อนใจ”
ยุพราชกับอ่อนคำมองพสุอย่างงงๆ พสุนึกได้ว่าเผลอพูดชื่ออ่อนใจออกไป เลยรีบพูดใหม่
“ทำไมไม่บอกองค์หญิงไปเล่า”
“ยังมาไม่ถึง หมายความว่าอย่างไร”
“ก็หมายความว่ายังไม่มาน่ะสิครับองค์หญิง” พสุตอบ
“มีทั้งอกานซิงห์ ทั้งทหารองครักษ์ติดตามไปเยอะแยะมากมาย เป็นไปได้อย่างไรที่เหล่าองครักษ์ยังพาเจ้าพ่อเจ้าแม่มาไม่ถึงจุดนัดพบนี้ เกิดอะไรขึ้น” เจ้าจ้อยสีหน้าวิตกกังวลอย่างมาก
เวลาเดียวกันนั้นเอง คำพูนนำข้าวห่อที่ไปขอจากชาวบ้านมาให้เจ้าหลวงกับมหาเทวีเสวย แต่มหาเทวีแทบกลืนไม่ลง บ่นถึงแต่เจ้าจ้อย พอทั้งกลุ่มจะรีบเดินทางต่อ พวกนายพลอังกูก็ตามมาถึงพร้อมประกาศกร้าว
“สั่งให้องครักษ์วางอาวุธแล้วยอมมอบตัวเถอะเจ้าหลวง ถ้าไม่อยากสูญเสีย”
“มอบตัวเรื่องอะไร เฮาไม่ใช่โจรผู้ร้าย ไม่ได้ปล้นฆ่ายึดบ้านยึดเมืองใครเหมือนกับพวกเจ้า”
“เจ้านั่นแหละ สั่งให้ทหารวางอาวุธ แล้วหลีกทางให้เจ้าหลวงเสีย”
“หลีกทาง วางอาวุธ...สิ่งที่มหาเทวีพูดไม่เคยอยู่ในความคิดของนายพลอังกู เมืองจายถูกเฮายึดไว้หมดแล้ว หน้าที่ของพวกเจ้าหลวงคือทำตามคำสั่งเฮาในฐานะเชลย ไม่อย่างนั้นก็ต้องกลายเป็นศพอยู่ในป่าเมืองเปยนี่แหละ ไม่มีวันได้เจอะเจอหน้าเจ้าแสงจันทาลูกสาวอีกเลยในชาตินี้”
อกานซิงห์ไม่ยอมและไม่กลัวคำขู่ของนายพลอังกู เขาถือปืนเตรียมพร้อม ปรายตามองส่งสัญญาณให้คำพูนและกาวินอย่างรู้ใจกัน
“เฮาจะเริ่มนับถอยหลังนะ ถ้าเจ้าหลวงยังดื้อดึงไม่ยอมให้ทหารวางอาวุธ มอบตัวเสียแต่โดยดีล่ะก็ เฮาก็จำเป็นต้องสั่งประหาร”
นายพลอังกูอหังการ เริ่มนับหนึ่ง แต่ไม่ทันถึงสอง พวกอกานซิงห์ก็ชิงลั่นไกเข้าใส่กลุ่มทหารของเขา แล้วพยายามพาเจ้าหลวงกับมหาเทวีหนีไป นายพลอังกูโกรธมาก ตะโกนสั่งให้ฆ่ามัน แล้วเอาตัวเจ้าหลวงกับมหาเทวีมา
สามองครักษ์สู้ตายถวายชีวิต ไม่ยอมโดนจับและยังคงพาเจ้าหลวงกับมหาเทวีหลบหลีกแล้วยิงตอบโต้พวกนายพลอังกูเป็นระยะ แต่ในที่สุดกระสุนปืนก็หมดลง ทั้งกลุ่มกำลังจะจนมุม โชคดีได้ส่างคำคนขับรถในหอคำเมืองจายมาช่วยพาหนีไปอย่างชำนาญเส้นทาง แถมพวกนายพลอังกูยังเสียท่าโดนกับดักของส่างคำตายไปหลายคน
ooooooo