ตอนที่ 15
“โธ่...เจ้าจ้อย” พสุสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ เจ้าจ้อยทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ลอบยิ้มขำกับมหาเทวี
เมื่อทั้งหมดพากันออกจากห้อง เป็นจังหวะที่วราพรเร่งฝีเท้ามาพร้อมกับบัว เผ่าเทพเห็นเข้าก็บอกพสุว่าคุณหญิงแม่ของแกมา พสุเลยนึกว่าเผ่าเทพโทร.ไปบอก
“เปล่า...แกอย่ามาโทษฉัน คงจะเป็นที่หน่วยแกนั่นแหละรายงานไป”
“พสุ!” เสียงวราพรเรียกชื่อลูกชายและเดินตรงดิ่งมาสวมกอด “เป็นยังไงบ้างลูก ถูกยิงอีกแล้วเหรอ นี่ตกลงลูกเป็นคนหรือเป็นเป้า ทำไมถูกยิงอยู่เรื่อย”
“ไม่ถูกยิงก็บ่อยครับ แต่คุณแม่ไม่รู้เอง”
“ยังจะมาตลกอีก เดี๋ยวเถอะ”
พสุยิ้มบางๆ มองเลยมาที่บัว บัวทักทายและถามว่าบาดเจ็บที่ไหนบ้าง พสุบอกว่าถูกยิงถากๆที่แขนไม่หนักหนาอะไร ส่วนเจ้าจ้อยส่งยิ้มให้บัวและกล่าวว่าดีใจที่ได้เจอกันอีก
“สวัสดีค่ะเจ้าจ้อย ดีใจที่ได้เจอเช่นเดียวกันค่ะ”
“คุณแม่ครับ เชิญทางนี้ ผมขอแนะนำให้รู้จักนะครับ ท่านนี้คือมหาเทวีจันทาเทวีแห่งเมืองจาย พระมารดาของเจ้าจ้อยครับ มหาเทวีครับ นี่คุณแม่ของผมครับ คุณหญิงวราพร”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ มหาเทวี”
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณแม่ของพสุเช่นเดียวกัน”
“ส่วนคนนี้...เจ้าแสงจันทาหรือเจ้าจ้อยของผมครับ”
“เจ้าจ้อยของผมเลยเหรอ”
“ครับคุณแม่ อีกไม่นานผมก็จะกลายเป็นคนในครอบครัวของเจ้าหลวงเมืองจาย ส่วนเจ้าจ้อยก็จะต้องกลายมาเป็นคนในครอบครัวของเราเหมือนกันครับคุณแม่”
วราพรมองพสุจับมือเจ้าจ้อย ทั้งคู่ส่งยิ้มที่อิ่มเอมไปด้วยความรักมาให้ วราพรรับรู้ด้วยความเข้าใจและพูดคุยกับมหาเทวีด้วยมิตรไมตรี บอกว่าตนมีความในใจอยากจะพูด
“เรื่องอะไรหรือคุณหญิง”
“ก็เรื่องที่ฉันเคยต่อว่าต่อขานเจ้าหลวงสวามีของมหาเทวีที่ปางไม้”
“เรื่องที่พวกเฮาไม่ไปเยี่ยมหมวดพสุที่โรงพยาบาล หลังจากที่หมวดพสุช่วยเจ้าจ้อยหนีพวกทหารซาอูข้ามพรมแดนเข้ามาในเมืองไทย จนหมวดพสุบาดเจ็บสาหัสน่ะหรือ”
“ใช่ค่ะ เรื่องนั้นแหละ ตอนนั้นฉันโมโหมาก”
“เฮาต้องขอโทษด้วยจริงๆ ตอนนั้นทั้งเฮาทั้งเจ้าหลวงทั้งเจ้าจ้อยไม่รู้จริงๆว่าหมวดพสุบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าพวกเฮารู้จะต้องรีบไปเยี่ยมโดยทันที แต่นี่เกิดความเข้าใจผิดกัน”
“ฉันรู้เรื่องหมดแล้วค่ะ ว่าพวกมหาเทวีไม่ได้รับข่าวคราวของพสุเลย ฉันเลยอยากจะขอโทษไงคะ ว่าฉันไม่ควรไปกล่าวหาแบบนั้น”