ตอนที่ 15
“เฮาไม่ได้เพ้อคลั่งไปคนเดียว แต่ฝันของเฮากำลังจะเป็นความจริงแล้ว เฮากำลังจะได้เป็นเจ้าหลวงคนต่อไปของเมืองจาย โดยการแต่งตั้งของนายพลอังกู ได้ยินมั้ย เฮากำลังจะได้เป็นเจ้าหลวงคนต่อไป”
“อะไรนะ นี่เจ้าพี่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองไปรับใช้นายพลอังกูอย่างนั้นหรือ”
“เฮากำลังรักษาเมืองจายไว้ต่างหาก ไม่เช่นนั้นถ้าวันนี้นายพลอังกูล้มล้างเจ้าพ่อของน้องได้สำเร็จ นายพลอังกูอาจจะแต่งตั้งคนของซาอูขึ้นมาเป็นเจ้าหลวงแทนก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเมืองจายก็เป็นอันล่มสลาย กลายเป็นเมืองของคนชาติซาอูโดยสมบูรณ์ เฮาถึงต้องเอาน้องไปแลก ตำแหน่งเจ้าหลวงเพื่อรักษาเมืองไว้ให้ลูกหลานยังไงล่ะ”
“ถ้าเจ้าพี่ไม่อยากให้พวกซาอูมันกลืนกินเมืองจายของเราไป ทำไมเจ้าพี่ไม่ใช้วิธีต่อสู้กับพวกซาอูเคียงข้างเจ้าพ่อของเฮาแย่งชิงเมืองจายกลับคืนมาล่ะ ทำไมเลือกใช้วิธียอมเป็นขี้ข้ารับใช้โจรต่างชาติปล้นบ้านเมือง”
“สู้ยังไงเราก็ไม่มีทางชนะหรอก กำลังของเราน้อยกว่ามัน อาจจะถูกทหารซาอูฆ่าตายอย่างอนาถหรือติดคุกอย่างน่าสมเพชเวทนาไปจนตาย การต่อสู้ที่ไม่มีวันชนะ มันน่าภูมิใจตรงไหน”
“แล้วการที่เจ้าพี่ได้ขึ้นเป็นเจ้าหลวงที่เป็นหุ่นเชิดของนายพลอังกูมันน่าภูมิใจตรงไหนหรือ”
“เฮาไม่รู้ เฮารู้แต่ว่าเฮาต้องได้เป็นเจ้าหลวง และเจ้าต้องไปเป็นนางทาสในฮาเร็มของนายพลอังกู มานี่!”
“เฮาไม่ไป ปล่อยเฮานะไอ้คนขี้ขลาด”
“หุบปาก!”
ในที่สุดเจ้าขุนแสงเรืองก็ลากเจ้าจ้อยออกไปหานายพลอังกูสำเร็จ กลุ่มเจ้าหลวงเห็นดังนั้นก็ทั้งโกรธและตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าขุนจะทรยศพวกเดียวกัน
“ทำดีมากเจ้าขุน เอาตัวเจ้าหญิงมาให้เฮา แล้วเฮาจะแต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้าหลวงเมืองจายอย่างแน่นอน”
“เจ้าขุน...ไอ้หลานเลว...แกทำอย่างนี้กับพี่น้องกับบ้านเมืองได้อย่างไร” เจ้าหลวงตะโกนอย่างคับแค้นพร้อมทำท่าจะออกจากที่กำบัง แต่พวกอกานซิงห์รั้งไว้ ขณะที่สมุนของนายพลอังกูก็ยังยิงมาไม่หยุด
“ในที่สุดเจ้าหญิงก็มาอยู่ในมือเฮา เมื่อเป็นคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอกเจ้าหญิง” นายพลอังกูหัวเราะร่า
“เจ้าไม่คู่ควรกับเฮา อย่าเอามือเปื้อนเลือดที่เผาบ้านปล้นเมืองคนอื่นมาแตะต้องตัวเฮานะ เอามือออกไป”
“หัดพูดเพราะๆหวานๆกับเฮาหน่อย อีกไม่นานเจ้าหญิงก็ต้องไปอยู่ซาอูกับเฮา เจ้าหญิงจะได้ไม่เคอะเขิน เป็นงาน ไม่ต้องให้เฮาสอนอะไรอีก”
“เฮาไม่มีวันไปเหยียบแผ่นดินของคนชั่วอย่างเจ้าหรอก”