ตอนที่ 15
ที่โกดังร้าง พสุขึ้นมากวาดตามองหาเจ้าจ้อยแต่ไม่เห็นแม้เงา กระทั่งเดินลึกเข้าไปข้างในเห็นเธอถูกมัด แต่พอจะเข้าไปช่วยเธอก็ร้องห้ามจนเขาชะงัก เพราะนายพลอังกูถือปืนรออยู่ในมุมมืด
“เอาสิ ไอ้ทหารไทย จะช้าอยู่ทำไมเล่า อุตส่าห์ดั้นด้นไปช่วยเจ้าหญิงหนีตายออกจากเมืองจายจนข้ามแดนมาหลบอยู่ที่เมืองไทยได้แล้ว แกจะทนเห็นเจ้าหญิงต้อง มาตายที่เมืองไทยง่ายๆต่อหน้าต่อตาแกตอนนี้หรือ”
“ชายชาติทหารไม่รังแกผู้หญิง ไม่ฆ่าสตรีที่ไม่มีทางสู้ ปล่อยเจ้าจ้อยซะ”
“คำขวัญในวันเด็กของแกใช้กับนายพลอังกูไม่ได้หรอกเว้ย คนอย่างนายพลอังกูฆ่าได้ทุกคน ไม่ว่าใครหน้าไหนที่ขวางทางฉัน และตอนนี้ถ้าฉันฆ่าเจ้าจ้อย เจ้าแสงกับมหาเทวีก็จะหมดทายาทสืบบัลลังก์ทันที จบสิ้นแผ่นดินรัชสมัยเจ้าแสงหน่อฟ้า”
ทันใดนั้นนายพลอังกูลั่นไกไปที่เจ้าจ้อยทันที พสุเข้าขวางโดนกระสุนเจาะที่ไหล่เลือดทะลัก เจ้าจ้อย
กรีดร้องลั่น เสียงปืนและเสียงร้องของเจ้าจ้อยทำให้ยุพราชที่เพิ่งจัดการทหารซาอูหมดสิ้นต้องรีบวิ่งขึ้นไป
พสุกอดเจ้าจ้อยไว้อย่างปกป้อง พร้อมกับหันไปยิงสวนคืนนายพลอังกูไม่นับ แต่ทั้งพสุและเจ้าจ้อยต้องตะลึงเมื่อกระสุนที่พุ่งเข้ากระทบร่างนายพลอังกูร่วงลงกับพื้น ไม่ระคายผิวสักนิด นายพลอังกูหัวเราะร่า บัดนี้รอบตัวเขามีกลุ่มควันของวิญญาณโหงพราย
พสุรีบชักมีดตัดเชือกปลดเจ้าจ้อยเกือบจะขาดอยู่แล้ว แต่อยู่ๆนายพลอังกูก็เข้ามาประชิดเร็วมาก จับมือที่ถือมีดของพสุรั้งไว้ พสุสู้ด้วยมือเปล่าแต่นายพลอังกูกลับไม่สะทกสะท้าน จับคอพสุบีบด้วยมือเดียวจนขาเขาลอยจากพื้น
“นายพลปิศาจ...แกเล่นของเหรอ” พสุดิ้นรนกระชากตะกรุดหนังเสือที่ห้อยคอออกมาหวังไล่ผีล้างอาถรรพณ์ แต่นายพลอังกูกลับหัวเราะหยัน
“ตะกรุดของมึงทำอะไรหน้ากากผีพรายกูไม่ได้หรอก”
นายพลอังกูบีบคอพสุแน่นขึ้นจนดิ้นหายใจไม่ออก เจ้าจ้อยตะโกนลั่น
“ปล่อยเขานะ...อย่าทำอะไรเขา”
ยุพราชวิ่งขึ้นมาเห็นก็ยิงใส่นายพลอังกู แต่กระสุนไม่ระคายผิว จึงวิ่งเข้าไปกระโดดเตะต่อย แต่นายพลอังกูแค่ยกมือปัดกลุ่มวิญญาณก็พุ่งเข้าใส่ยุพราชจนกระเด็นล้มหงายไปนอนเจ็บจุก
พสุเหวี่ยงขาเตะนายพลอังกูเลยถูกเหวี่ยงลงกับพื้นกลิ้งไปนอนเจ็บ กระอักเลือดออกมา ในจังหวะนั้นเองเชือกที่มัดเจ้าจ้อยที่พสุตัดคาไว้ก็ขาด เจ้าจ้อยหลุดจากเชือกก็วิ่งถลาเข้ามาประคองพสุไว้
“หมวด...”
“ถ้าไม่อยากเห็นมันตาย เจ้าต้องไปกับเฮา”