ตอนที่ 8
อรุณรุ่งนิ่วหน้าไม่เข้าใจแต่ทรงวาดเลือกจะไม่อธิบายแต่ทิ้งท้ายเสียงอ่อน “ถ้าอั๊วทำได้อั๊วก็อยากปกป้องดูแลคนที่อั๊วรักทุกคนให้ดีที่สุดแต่ความจริงคืออั๊วทำไม่ได้ ฉะนั้นทางออกที่อั๊วทำได้ก็คือ...อย่าให้ใครเข้ามาในชีวิตอั๊วอีก”
ทรงวาดแยกกลับบ้านไปแล้ว อรุณรุ่งเก็บคำพูดเขาไปคิดและเล่าให้ปิ่นมุกฟัง
“อั๊วมาคิดทบทวนดูแล้ว เฮียโฮ่วอาจจะรู้ก็ได้ว่าอั๊วคิดยังไงกับอีก็เลยปฏิเสธอั๊ว”
“เฮียตาถั่วที่สุด! ผู้หญิงทั้งสวยทั้งดีอย่างแจ้ ยังไม่ชอบอีก จะเอายังไง”
“ช่างเถอะอาจู เมื่อเฮียเขาพูดมาอย่างนี้อั๊วก็คงต้องทำใจ ดีแล้วล่ะจะได้จบซะที”
“ไม่จบ! เป็นตายยังไงอั๊วก็ต้องคุยกับเฮียโฮ่วให้รู้เรื่อง”
“อย่านะอาจู ทำอย่างนี้อั๊วไม่ยิ่งขายหน้าเข้าไปใหญ่เหรอ”
“อั๊วไม่ทำให้แจ้ขายหน้าหรอกน่าแต่อั๊วต้องรู้ให้ได้ว่าเฮียโฮ่วคิดอะไรอยู่กันแน่...”
ooooooo
ลี่เง็กลำพองใจว่าจะไม่มีใครจับส่งตำรวจ ยอมตามไต้เกียวไปดูหนังโดยไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย!
ไต้เกียวฉวยจังหวะลี่เง็กมีคดีติดตัวส่งคนไปฆ่าแล้วนำศพโยนคลองแบบเดียวกับที่รณชิตโดนเพื่อหวังโยนความผิดให้ตำรวจหนุ่มและยุให้แก๊งหกห้องระส่ำระสาย
ทรงวาดวุ่นวายกับเรื่องขยายกิจการเปิดร้านข้าวต้ม กว่าจะรู้เรื่องลี่เง็กถูกฆ่าก็เช้าวันต่อมา เม่งฮงไปดูการงมศพลูกสาวด้วย แววตาเคียดแค้นจนทรงวาดใจไม่ดีต้องแล่นไปหารณชิต...ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง!
ปิ่นมุกแวะมาดูอาการรณชิตที่หอพักตำรวจตกใจมากเมื่อจู่ๆทรงวาดก็บุกมาถีบยอดอกรณชิต ทรงวาดไม่ยี่หระท่าทางแตกตื่นของสาวน้อยในอุปการะ โพล่งเสียงเรียบ
“อาเง็กถูกฆ่าตายเมื่อคืน ศพถูกนำไปโยนทิ้งคลอง สภาพแบบเดียวกับที่ทำกับจ่าไว้ไม่มีผิด”
“เฮียคิดว่าจ่าทำเหรอ”
พูดพลางปรายตาไปทางรณชิตที่จุกแอกแทบลุกไม่ขึ้น ทรงวาดส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่...คนที่ยืนยังไม่ไหวไม่มีปัญญาฆ่าอาเง็กแล้วเอาศพไปทิ้งคลองหรอก”