ตอนที่ 1
เม่งฮงยิ้มให้ทรงวาดและตบบ่าด้วยความภาคภูมิใจ “ลื้อรู้ไหมว่าเรื่องวันนี้โด่งดังทั่วเยาวราช ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเถ้าแก่เสือ สมแล้วที่ลื้อเป็นลูกพี่ชายอั๊ว เห็นลื้อเป็นอย่างงี้ อั๊วก็วางใจว่ากิจการของครอบครัวมีคนสืบทอดแล้ว”
“ขอบคุณครับอาเจ็กแต่อั๊วไม่เหมาะหรอก อาเจ็กยกกิจการให้อาเตี๋ยงกับอาเง็กเถอะ”
“ทำไมวะ...ลื้อรังเกียจโรงน้ำชาของเราเหรอ ลื้อรู้ไหมกว่าเราจะมีอย่างวันนี้ได้อั๊วกับเตี่ยลื้อลำบากเลือดตาแทบกระเด็น แต่ลื้อไปเสวยสุขอยู่ในบ้านผู้ดี พอสวรรค์ล่มลื้อก็ซมซานกลับมาแล้วยังมีหน้ามารังเกียจโรงน้ำชาอีกเหรอ”
อารมณ์ดีๆ เปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวเมื่อหลานชายยืนยันเจตนาไม่สืบทอดกิจการโรงน้ำชาที่แสนภูมิใจ ทรงวาดหรือบุ่นโฮ่วเห็นท่าไม่ดีตัดบทเสียงเรียบ
“กลางเดือนหน้าโรงสีข้าวอั๊วจะเปิดแล้ว ขอเชิญอาเจ็กมาร่วมยินดีด้วยนะครับ”
เม่งฮงไม่ตอบรับแต่ผลุนผลันจากไปด้วยความฉุนเฉียว ทรงวาดได้แต่มองตามด้วยความหนักใจเพราะไม่อยากรับช่วงกิจการโรงน้ำชาที่ตนรังเกียจแต่ก็ไม่อาจตัดขาดญาติอย่างเม่งฮงได้
ooooooo
ทรงวาดคิดไม่ตกเรื่องปิ่นมุกและเม่งฮง อยากไกล่เกลี่ยให้ต่างคนต่างอยู่แต่ไม่รู้จะทำได้อีกนานแค่ไหน ลิ้มป่วยซัง น้องสาวคนเดียวของเขาเดินถือถาดยาเข้ามาเห็นพี่ชายทำหน้าเครียดก็อดถามไถ่ไม่ได้
“ตอนอั๊วกลับจากโรงสีสวนกับอาเจ็ก หน้าอีบอกบุญไม่รับเลย ทะเลาะกับเฮียอีกแล้วเหรอ”
“อั๊วไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับโรงน้ำชาอีกแล้ว ที่ดิ้นรนจะเปิดโรงสีให้ได้ก็เพราะอั๊วรังเกียจที่ต้องหากินอย่างนั้น แล้วก็ไม่อยากให้น้องสาวคนเดียวของอั๊วได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงโรงน้ำชาด้วย...แม้ว่าลื้อจะเป็นเจ้าของก็เถอะ”
ป่วยซังซาบซึ้งใจในความห่วงใยของพี่ชาย ทรงวาดยิ้มบางๆก่อนขอให้น้องสาวคนเดียวกลับไปเรียนหนังสือให้จบหากอยากตอบแทนบุญคุณความรักความหวังดีจากเขา
“เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ โลกของอั๊วมีแต่บ้าน ต่อไปคงเพิ่มโรงสีอีกแห่ง ให้อั๊วทำงานดีกว่าจะได้แบ่งเบาภาระเฮีย”
“ลื้อก็เป็นซะอย่างงี้...ปิศาจน้อยล่ะ”
ทรงวาดหมายถึงปิ่นมุกหรือเตียงจู ความดื้อรั้นและหัวแข็งของสาวน้อยในอุปการะเป็นที่รู้กันในบ้าน โดยเฉพาะผู้อุปการะอย่างทรงวาดที่โดนฤทธิ์เดชอย่างสม่ำเสมอ
ป่วยซังส่ายหน้าขำๆ อ่อนใจกับฉายาที่พี่ชายตั้งให้ปิ่นมุก “เรียกอาจูอย่างงี้อีกแล้ว...อีอ่านหนังสือ
อยู่ข้างบน อีขยันนะ ถ้าจะมีใครสักคนเรียนสูงๆให้ได้อย่างใจเฮียก็สงสัยจะเป็นอาจูนี่แหละ”
ทรงวาดหัวเราะหึๆ รำพึงด้วยความหมั่นไส้ปนเอ็นดู “ขยันกวนประสาทอั๊วมากกว่าน่ะสิ!”