ตอนที่ 1
“ไม่อยากดูก็ไม่ต้องดู แต่อั๊วอยู่เป็นเพื่อนลื้อตรงนี้ไม่ได้หรอกนะ ต้องไปต้อนรับแขก”
“แล้วใครใช้ให้เฮียอยู่ล่ะ อยากไปไหนก็ไปเลย!”
ปิ่นมุกเชิดหน้าหนีงอนๆ ทรงวาดมองมาด้วยความเอ็นดูก่อนชี้นิ้วไปบนฟ้าที่เพิ่งมีการจุดพลุ สาวน้อยในอุปการะเบิกตาโพลงด้วยความตื่นเต้น ทรงวาดยิ้มบางๆแล้วเอ่ยเสียงอ่อน
“ปีก่อนลื้อขออั๊วไปดูพลุแต่อั๊วไม่มีเวลาพาไปก็เลยถือโอกาสจุดพลุให้ลื้อดูชดเชย...แค่นี้ล่ะที่อั๊วอยากบอก”
พูดจบก็ผละไป ทิ้งให้ปิ่นมุกมองตามอึ้งๆ ไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อว่าเขาจะจำได้...
ooooooo
ทรงวาดผละจากปิ่นมุกมาได้ก็ถือโอกาสทักทายแขกเหรื่อคนอื่น โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงเคืองมากเพราะทรงวาดไม่สนใจโอ๊วไต้เกียวหลานสาวคนสวยเท่าที่ควร ลิ้มเม่งฮงสั่งให้ลิ้มป่วยซังไปตามพี่ชายแต่ทรงวาดก็ไม่มาสักที
“กว่าจะมาได้ ดูมัน...ยังแวะคุยกับคนอื่นอีก แทนที่จะรีบมาหาอาเจ็กมัน”
ไต้เกียวกลัวทรงวาดไม่ชอบใจที่ถูกเจ้ากี้เจ้าการพยายามห้ามเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยงไม่ให้เร่งรัด แต่สองหนุ่มแกนนำแก๊งหกห้องก็ไม่ยี่หระ ตั้งหน้าตั้งตาจะจับคู่ไต้เกียวกับทรงวาดให้ได้
ทรงวาดพยายามไม่เฉียดไปใกล้โต๊ะเม่งฮงเพราะไม่อยากลำบากใจ แต่พลันต้องพุ่งไปแทบไม่ทันเมื่อจู่ๆนักแสดงงิ้วที่จ้างมาก็ขว้างหอกในมือใส่เม่งฮง!
เหตุการณ์ลอบสังหารลิ้มเม่งฮงอย่างอุกอาจกลางงานเปิดตัวโรงสีซึ่งแม้จะไม่สำเร็จแต่เจ้าของงานอย่างทรงวาดต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการกวดตามมือสังหารในคราบนักแสดงงิ้วด้วยตัวเองแต่ก็คลาดกันในที่สุด
เม่งฮงหัวเสียมากอาละวาดอย่างกราดเกรี้ยว “เก๋าเจ้ง! นับแต่อั๊วขึ้นมาเป็นใหญ่ในเยาวราชไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างงี้กับอั๊วมาก่อน ถ้าอั๊วไม่ฆ่ามันกับมืออั๊วไม่ขอใช้แซ่ลิ้ม”
ฮุ่ยเซี้ยงสีหน้าเคร่งเครียด ประสาทเสียแต่ไม่อยากให้หุ้นส่วนหนุ่มหุนหันพลันแล่น
“เสืออย่างลื้อถูกกระตุกหนวดต้องโกรธเป็นธรรมดาแต่เรายังไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใครจะไปฆ่ามันได้ยังไงวะอาฮง”
“ทำไมจะไม่รู้ ก็ไอ้พวกหัวลำโพงน่ะแหละจะมีใคร มันเพิ่งมีเรื่องกับอาเตี๋ยงมันก็เลยแค้นอั๊วน่ะสิ”
ทรงวาดกลัวใจอาหนุ่มพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ “อั๊วว่าเรื่องพวกหัวลำโพงมันจบไปแล้ว พวกมันอาจกล้ากับอาเตี๋ยง แต่อั๊วไม่เชื่อว่ามันจะกล้ากับอาเจ็ก อีกอย่าง...ถ้ามันคิดฆ่าหวังผลจริงๆใช้ปืนน่าจะสำเร็จกว่าหอกไม่ใช่เหรอครับ”
ทุกคนนิ่วหน้าคิดตาม ทรงวาดเห็นดังนั้นถือโอกาสบอกข้อสันนิษฐานของตัวเอง
“ตามความคิดของอั๊วพวกมันน่าจะหวังเสี้ยมให้เกิดความวุ่นวายเพื่อฉกฉวยผลประโยชน์มากกว่า”