ตอนที่ 1
“หน้าที่ลื้อคือตั้งใจเรียน อย่างอื่นไม่ใช่เรื่องที่ลื้อต้องเอามาคิดให้เปลืองสมอง กลับไปอ่านหนังสือของลื้อได้แล้ว”
ท่าทางไม่ยี่หระของเขาทำให้ปิ่นมุกน้อยใจหลุดคำพูด หยาบคาย ทรงวาดได้ยินก็เอ็ด
“อาจู...ลื้อเป็นเด็ก พูดจาหยาบคายได้ยังไง อย่าให้อั๊วได้ยินอีกนะ!”
ปิ่นมุกปึงปังผละไป ทรงวาดมองตามเซ็งๆ พึมพำไล่หลัง “ปิศาจน้อยเอ๊ย...”
ooooooo
ทรงวาดหรือบุ่นโฮ่วหมกมุ่นทำบัญชีไม่สนท่าทางตะบึงตะบอนของปิ่นมุกหรือเตียงจู สาวน้อยในอุปการะน้อยใจมากคว้าหมอนในห้องนอนฟาดเตียงระบายอารมณ์
“เฮียบ้า! ลื้อมันไม่ใช่เสือแล้ว แมวขี้เรื้อนชัดๆ ถ้าไม่เห็นแก่ว่าเคยช่วยชีวิตอั๊วไว้นะ...”
พลันภาพอดีตเมื่อหลายปีก่อนก็ปรากฏในหัว ปิ่นมุกยังจำได้ตอนเขามาบอกให้ไปอยู่ด้วยกัน
“อั๊วกำลังจะซื้อบ้านแล้วก็จะหาที่ทำเลดีๆ สร้างโรงสีข้าวด้วย ลื้อไปอยู่กับอั๊วนะ”
“แล้วทำไมอั๊วต้องไปอยู่กับลื้อด้วย อั๊วไม่มีวันไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับหลานของศัตรูฆ่าป๊าฆ่าม้าอั๊วหรอก”
“อั๊วรู้ว่าทำยังไงก็คงชดเชยสิ่งที่ลื้อเสียไปไม่ได้แต่ลื้อเองก็ยังเด็กแล้วก็เป็นผู้หญิง อยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้หรอก อั๊วจะดูแลลื้อเอง บ้านใหม่ของอั๊วมีน้องสาวอั๊วอยู่ด้วย...ไม่มีอะไรต้องกลัวนะ”
ปิ่นมุกเวลานั้นแผลงฤทธิ์เดชไม่ยอมไปไหน ปักหลักจะเป็นเด็กเร่ร่อนในศาลเจ้ากับแปะฮ้อชายชราผู้มีหน้าที่ดูแลศาลเจ้าจนกระทั่งถูกแก๊งค้าผู้หญิงลักพาตัว ทิเหล็งช่วยไม่ทันต้องพึ่งความช่วยเหลือจากทรงวาด
ทรงวาดสงสารปิ่นมุก ยิ่งได้ฟังเรื่องราวสุดรันทดจากแปะฮ้อยิ่งสะเทือนใจที่เธอต้องตกยากเพราะวีรกรรมชั่วๆของเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยง แม้จะโชคดีมีซินแสใจดีช่วยให้ได้เรียนหนังสือแต่ก็ไม่พ้นพวกแก๊งค้าผู้หญิง
ทิเหล็งหอบสภาพสะบักสะบอมไปฟ้องเรื่องปิ่นมุกถูกแก๊งค้าผู้หญิงลักพาตัว ทรงวาดร้อนใจด้วยความเป็นห่วงต้องบากหน้าไปหาเฮ้งเตี๋ยงลูกพี่ลูกน้องหนุ่มที่คุมโรงน้ำชาให้เม่งฮงอาแท้ๆ
“อั๊วไม่เคยซื้อผู้หญิงมาทำงาน ผู้หญิงที่นี่ทำงานด้วยความเต็มใจ เฮียไม่เคยดูแลกิจการเรา อย่ามาปากเสียที่นี่”
“ถ้าอย่างงั้นลื้อพอจะรู้ไหมว่าพวกที่จับตัวไปเป็นพวกไหน ยังไงก็คนวงการเดียวกัน ลื้อน่าจะระแคะระคายบ้าง”
“อย่าเอาอั๊วไปรวมกับพวกมัน ไอ้พวกที่จับผู้หญิงไปขายก็มีอยู่พวกเดียวเท่านั้นล่ะ มันเลือกแต่ผู้หญิงจนๆหรือไม่ก็ขอทานจะได้ไม่มีใครสนใจตามหา แต่ถึงบอกไปตัวเอกงิ้วอย่างเฮียจะทำอะไรได้”