ตอนที่ 13
ผ่านไปพักใหญ่ หมอถึงได้ออกมาจากห้องผ่าตัด ดลถลาเข้าไปถามอาการของลิซ่า
ขณะหมอกำลังรายงานอาการบาดเจ็บของเธอ รินกับหมอหมีเดินมาจากอีกทางหนึ่งเห็นหมอคุยอยู่กับดลก็หยุดรอ ไม่นานนักหมอผละไป ดลใจเสียทรงตัวแทบไม่อยู่ต้องเอามือยันผนังไว้ หมอหมีกับรินตกใจรีบเข้าไปถามลิซ่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาเล่าเสียงแผ่วแทบไม่มีแรง
“ลิซ่ายังไม่พ้นขีดอันตรายเพราะเสียเลือดมาก ต้องรอดูอาการคืนนี้ไปก่อน”
“ใครยิงคุณลิซ่าวะ”
“ฝีมือเสี่ยวิชัย” ดลกัดกรามแน่นแค้นสุดๆ แล้วขอร้องรินอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้แม่รู้ เขาจะบอกท่านเอง...
ด้านวิชัยยังคงนั่งอยู่ในรถซึ่งจอดอยู่หน้าฟาร์มไพรรักษา รูปถ่ายในมือของเขาบัดนี้ถูกขยำยับยู่ยี่ เขากำรูปใบนั้นลงจากรถ ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ทุกคนต้องชดใช้สิ่งที่ทำกับฉันและแม่”...
ที่หน้าห้องไอซียู รินเห็นพี่ชายนั่งหน้าเศร้าไม่ขยับไปไหนแนะให้กลับบ้านกันก่อน อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะหมอยังไม่ให้เยี่ยมพี่ลิซ่า หมอหมีเห็นด้วยเขาควรกลับไปพัก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
“ไม่ ฉันไม่กลับ ถ้าเกิด...อะไรขึ้นมา ฉันกลัว... กลัวว่าจะกลับมาไม่ทัน” พูดได้แค่นั้นดลน้ำตาร่วง รินพลอยร้องไห้ไปกับเขาด้วย จับมือเขาไว้อย่างเป็นกำลังใจให้ คราวนี้เขาบ่อน้ำตาแตกทันที
“พี่ทำใจไม่ไหวหรอกนะริน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับลิซ่า พี่ทนความสูญเสียอีกไม่ได้แล้ว รินเข้าใจพี่ใช่ไหม”
“ค่ะ รินเข้าใจ” รินโอบกอดพี่ชายไว้ สองพี่น้องร้องไห้ไปด้วยกัน หมอหมีน้ำตาซึมไปด้วย
“พี่รักลิซ่ามาก...มากซะจนพี่ยังแปลกใจตัวเองว่าทำไมเราถึงได้รักคนคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ ตอนที่ลิซ่าถูกยิง หัวใจพี่มันจะขาด ถ้าแลกกันได้พี่อยากเป็นคนที่นอนอยู่ในห้องไอซียูตอนนี้”
“พี่ดลอย่าเพิ่งคิดในแง่ร้ายเลยนะคะ รินเชื่อว่าพี่ลิซ่าจะต้องปลอดภัย” รินลูบหลังดลอย่างปลอบใจ
ooooooo
ดลไม่ยอมกลับบ้าน แค่เปลี่ยนอิริยาบถไปเดินผ่อนคลายที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล รินเห็นเขาหน้าเศร้าไม่หายขยับจะไปหา แต่หมอหมีจับแขนเอาไว้บอกให้ปล่อยเขาอยู่คนเดียวสักพักดีกว่า
เธอเห็นพี่ชายเศร้าพลอยจะร้องไห้พยายามกลั้นแต่ไม่ไหว
“ถ้าน้องรินอยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะครับ ไม่ต้องเก็บมันเอาไว้ พิงมาที่อกของพี่ตรงนี้”
รินซบอกหมอหมีปล่อยโฮ “รินสงสารพี่ดล สงสารพี่ลิซ่า ทำไมพี่ดลกับพี่ลิซ่าต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆ ด้วยก็ไม่รู้ รินไม่รู้จะช่วยพวกเขาอย่างไร”
“สิ่งที่รินทำได้ดีที่สุดก็คือรินต้องเข้มแข็งเพื่อที่จะประคองไอ้ดล ในวันที่มันล้มลงมาถ้าเกิดว่าคุณลิซ่า...”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ รินคิดไม่ออกเลยว่าความรู้สึกของพี่ดลจะแย่มากแค่ไหน แล้วก็ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่สภาพจิตใจของพี่ดลถึงจะกลับมาเป็นปกติ”
“เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณลิซ่ามันทำให้พี่รู้สึกว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราอยากพูดอยากทำอะไรก็ให้รีบทำ” หมอหมีจับมือรินมากุมไว้ “พี่ก็เลยอยากบอกน้องริน ที่พี่เคยพูดว่าพี่ไม่ได้ชอบน้องริน วันนี้พี่ขอถอนคำพูดในวันนั้น พี่...พี่ชอบน้องรินนะครับ”
“พี่หมออย่ามาล้อเล่นในเวลาแบบนี้ รินไม่โอเค” รินดึงมือออกจากมือเขา
“พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่พูดจริงและพี่มั่นใจว่าพี่ชอบน้องริน ที่พี่ปฏิเสธไปตอนแรกเพราะพี่รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ดีพอ น้องรินเป็นคนดีมากจนทำให้พี่รู้สึกไม่คู่ควร แต่พอนานวันเข้าพี่กลับชอบน้องรินมากขึ้นจนไม่อยากให้น้องรินไปเป็นของคนอื่น น้องรินครับ พี่รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะพูดเรื่องนี้ แต่พี่ไม่อยากรออีกแล้ว น้องรินเป็นแฟนพี่นะ” หมอหมีจับมือรินมากุมไว้อีกครั้ง เธอถึงกับไปไม่เป็น
“เอ่อ ริน...คือ...รินไม่รู้ค่ะ” รินดึงมือออกแล้วจ้ำพรวดๆไปทันที...