ตอนที่ 15
“ฉันเสียอีกเป็นฝ่ายต้องขอบใจที่พวกเอ็งนำบทประพันธ์ของฉันมาทำให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก” เทิดหยุดมองเมชมว่าเล่นได้ดีไม่มีที่ติเลย เมไหว้ขอบคุณ “ที่อยากพบพวกเอ็งก็เพราะข้าอยากจะขอโทษพวกเอ็งที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง และอยากจะขออโหสิกรรมก่อนที่ข้าจะไป”
“พวกเราเข้าใจครูเทิดและอโหสิกรรมให้ทั้งหมดแล้วครับ”
“ขอบใจมาก...ข้าทำบาปกรรมไว้กับเอ็งมากมายนักจนไม่กล้าที่จะขอให้เอ็งยกโทษให้ข้า”
“ผมไม่เคยถือโทษโกรธครูเทิดเลยครับ ขอให้ครูเทิดสบายใจได้ และผมก็ขอให้ครูเทิดอโหสิกรรมกับสิ่งที่ผมได้เคยล่วงเกินครูเทิดไว้ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม”
พูดแล้วปกรณ์ก้มกราบแทบเท้าเทิด เทิดตื้นตันค่อยๆทรุดคุกเข่าข้างปกรณ์ ปกรณ์เงยขึ้น ต่างคนต่างจ้องมองกันด้วยความรู้สึกผูกพัน แล้วโผกอดกันแนบแน่น
“ไอ้กล้า ลูกพ่อ...”
“พ่อ...”
ทั้งสองน้ำตาซึมอย่างไม่อาจกลั้นได้ ทุกคนมองภาพตรงหน้าอย่างตื้นตัน สะเทือนใจ...
จนกลับไปห้องประชุมแล้วเมยังน้ำตาไหลไม่หยุดจนยชญ์บอกว่าหยุดร้องไห้ได้แล้ว เมบอกว่าตนอยากหยุดแต่น้ำตาไหลไม่หยุด ยชญ์จึงเอาผ้าเช็ดหน้าให้เช็ดน้ำตา เมรับไปเช็ดแล้วแถมด้วยการสั่งน้ำมูกพรืดใหญ่ แล้วส่งผ้าเช็ดหน้าคืนให้ เอ่ยอ่อนโยน
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณพี่ยชญ์”
“เธอนี่มัน...เฮ้อ...จริงๆนะ” ยชญ์พูดอย่างอื่นไม่ออกได้แต่บ่นและถอนใจ
พอดีมิ่งตะโกนเรียกทั้งสองมาแต่ไกล แล้วเข้ามาบอกอย่างตื่นเต้นว่าเร็วเข้า เขาประกาศผลกันแล้ว
“แล้วเป็นยังไง” เมตื่นเต้นมาก
“เรา...ชนะ!”
“เย้ๆ เราชนะแล้ว...ชนะแล้ว”
“ใช่...เราทำได้ เราทำได้จริงๆ”
ทั้งเมและยชญ์กระโดดกอดกันอย่างลืมตัว พอรู้สึกตัวนึกได้ว่ามิ่งยืนมองอยู่ก็ผละจากกันเขินๆเก้อๆ มิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เร่งให้รีบเข้าไปรับรางวัลกันเร็ว
ทั้งสามวิ่งตัวปลิวเข้าห้องประชุมด้วยความดีใจสุดๆ
ooooooo
เทิด พุกกับดวง กลับมาที่บ้านวิจิตรวาทิน ดวงมองเรือนเล็กที่อยู่ตรงหน้ายิ้มดีใจ เอ่ยกับเทิด
“ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้กลับมาที่เรือนนี้อีกครั้ง ฉันขอขึ้นไปบนเรือนสักครู่ได้ไหมจ๊ะ”
“นี่ก็คือเรือนของแม่ดวงเช่นกัน แม่ดวงอยากทำอะไรก็ทำได้เลยไม่ต้องขอพี่ดอก”
ดวงดีใจยิ้มขอบคุณแล้วรีบขึ้นไปและหายเข้าไปในเรือนเล็ก
เทิดจะก้าวตาม แต่พุกเรียกไว้บอกว่าตนขอลาพี่เสียเดี๋ยวนี้เลย เทิดถามว่าถึงเวลาเอ็งแล้วรึ? แล้วจะร้องเรียกดวง พุกรีบห้ามไว้บอกว่า
“ฉันกับแม่ดวงขาดกันไปนานแล้ว ตอนนี้แม่ดวงก็คือพี่สะใภ้ของฉัน ฉันคงไม่จำเป็นต้องลา ฝากพี่เทิดลาแม่ดวงให้ฉันด้วยก็แล้วกัน...ฉันไปก่อนนะพี่เทิด” พุกไหว้ลาทันที
“ขอให้เอ็งไปดีเถอะไอ้พุกน้องรัก” เทิดดึงพุกเข้าไปกอดด้วยความรู้สึกผูกพันก่อนผละจากกัน พุกค่อยๆถอยจนหายไป เทิดยืนมองอย่างแสนอาลัย...
ooooooo
พุกไปยืนเหม่อคิดถึงอดีตที่ริมแม่น้ำ...
ที่ริมน้ำอัมพวา...พุกนึกถึงตนกับดวงนั่งคุยกันอยู่ริมน้ำอย่างมีความสุข...ที่ตลาดอัมพวา ตนกับดวงเดินซื้ออาหารและเสื้อผ้าให้ลองใส่กันอย่างมีความสุข...ในเรือที่ล่องไปตามลำน้ำอัมพวา ผ่านลำพูสองชายฝั่งเห็นหิ่งห้อยส่องแสงวิบวับๆๆละลานตา ดวงพยายามจับแต่จับไม่ได้ พุกวางพายจับหิ่งห้อยใส่มือดวง ดวงดีใจมองพุกอย่างซาบซึ้ง...
พุกยืนอยู่ริมแม่น้ำมองสายน้ำนึกเห็นภาพหวานตนกับดวงในอดีตแล้วยิ่งเศร้า พอนั่งลงก็มีซอสามสายอยู่ในมือ พุกสีซอเศร้าสร้อยคล้ายเสียงคร่ำครวญ โหยหวนถึงหญิงอันเป็นที่รัก...แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสาย...