ตอนที่ 15
ฝ่ายเทิดกับดวงอยู่ในเรือนเล็ก เห็นมุมต่างๆที่เคยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในอดีต...ทั้งที่ที่เทิดเคยนั่งสอนแดงตีระนาด...ที่ที่ดวงทำกับข้าวอร่อยให้เทิดกับกล้ากิน
เทิดพูดถึงรสมือน้ำพริกของดวงในวันแรกว่าตนยังจำได้ดี...เป็นน้ำพริกปลาทูของโปรดของตนแต่เผ็ดจนตนต้องกินน้ำพริกคำกินน้ำคำ ดวงจะไปตำให้ใหม่ก็บอกว่าไม่ต้อง อร่อยดีพี่ชอบ แล้วพยายามกินอย่างอร่อยทั้งที่เผ็ดจนปากคอแทบพอง ดวงมองซึ้งที่เทิดอดทนเพื่อรักษาน้ำใจตน
คุยกันถึงความจริงในอดีตแล้วต่างก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข ครู่หนึ่งดวงถามว่าพุกหายไปไหน เทิดบอกว่าพุกไปแล้ว ตนบอกให้ไปลาดวงแต่พุกฝากตนให้ช่วยลาแทนด้วย
“พี่พุกเป็นคนดีเหลือเกิน”
“ใช่ ข้าเป็นหนี้บุญคุณมัน เพราะมันแท้ๆที่นำพาให้ข้าและแม่ดวงได้มาพบกัน”
“ลาก่อนจ้ะพี่พุก ขอให้พี่โชคดี” ดวงพึมพำมองไปทางหน้าเรือน
ooooooo
เทิดตีระนาดกังวานไปทั้งชานเรือนอย่างไพเราะจับใจ ดวงนั่งพิงชานเรือนฟังอย่างมีความสุขมาก พอจบเพลงดวงปรบมือชม
“ไพเราะเหลือเกินจ้ะพี่เทิด ฉันอยากขออะไรพี่เทิดสักอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าพี่จะให้ฉันได้หรือเปล่า”
“ไม่ว่าแม่ดวงจะขออะไร พี่ก็ให้ได้ทุกอย่าง”
“ฉันอยากขอให้พี่เล่นระนาดให้ฉันฟังไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลาของฉัน”
“ไม่นะแม่ดวง พี่จะไม่ยอมให้แม่ดวงจากพี่ไปอีก” เทิดตระหนก ว้าวุ่นใจ
“พี่เทิดก็รู้ว่าเวลาของเราใกล้หมดเต็มทีแล้ว เราต่างก็ต้องไปชดใช้กรรมในที่ที่เราจะต้องไปตามผลบุญและกรรมที่เราทำกันมา”
“ไม่นะ...” เทิดดึงตัวดวงเข้าไปกอดไว้อย่างรักและหวงแหน
ดวงค่อยๆ ดันตัวเทิดออก ขอร้องอย่างเยือกเย็น
“ที่ชีวิตเราทั้งสองต้องเป็นอย่างนี้ ก็เพราะความรัก โลภ โกรธ หลง พี่เทิดลืมไปแล้วเหรอจ๊ะ ถ้าพี่ยังฉุดรั้งฉันไว้อีก เราก็คงต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไม่ได้ผุดได้เกิดชั่วกัปชั่วกัลป์ ฉันอยากได้ยินเสียงระนาดของพี่ไปเรื่อยๆจนกว่าวิญญาณของฉันจะหมดสิ้นการรับรู้...”
เทิดข่มใจ ตัดสินใจพยักหน้า ค่อยๆปล่อยมือจากดวงลุกไปที่ระนาด นั่งลงเล่นเพลงต่อ แต่สายตาจับจ้องที่ดวงตลอดเวลา
ดวงยิ้มให้เทิด ครู่หนึ่งลำแสงสว่างส่องลงมาต้องร่างดวง ดวงเงยหน้ามองลำแสงแล้ววิญญาณก็ค่อยๆจางไป
เทิดข่มใจไม่ลุกจากระนาด ยังคงตีไปน้ำตาไหลไป จนกระทั่งร่างดวงหายไปต่อหน้าพร้อมลำแสงสว่าง
เทิดยังคงตีระนาดต่อไป แต่เสียงเพลงกลับคร่ำครวญหวนหาจนฟังแล้วสะท้านเยือกไปถึงหัวใจ
เมื่อเทิดบรรเลงเพลงจบลง วางไม้ระนาด มองไปยังจุดที่ร่างดวงนั่งอยู่เมื่อครู่อย่างสุดเศร้า พึมพำ
“แม่ดวงเป็นคนดี คงได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ลาก่อนนะ แม่ดวง...”
เทิดลงจากเรือนเล็กหันกลับไปมองเรือนอีกครั้งเหมือนจะเก็บไว้ในความทรงจำ ก่อนที่ร่างเทิดจะค่อยหายไป เหลือแต่เรือนเล็กที่ยังคงอยู่อย่างเงียบสงบ เหมือนไม่เคยมีเรื่องราวร้ายแรงเกิดขึ้นมาก่อนเลย...
ooooooo
เช้าต่อมา...ที่ครัวบ้านวิจิตรวาทิน จำเนียรกำลังสั่งทุกคนช่วยกันจัดอาหารใส่ภาชนะต่างๆ ที่อยู่บนโต๊ะ
อิงอรโผล่เข้ามาในครัวถามจำเนียรว่าอาหารเรียบร้อยแล้วหรือยัง คุณยชญ์ให้ตนมาตามแล้ว
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ช่วยกันทยอยยกออกไปที่เรือนเล็กได้เลย โอ๊ย...นานๆทำบุญใหญ่กันสักที คนแก่ทำอะไรไม่ถูกเลย” จำเนียรบ่นตัวเอง
“นี่ขนาดทำไม่ถูกนะคะ กับข้าวนับเป็นสิบๆ อย่าง เสร็จหมดแล้ว คุณป้านั่งพักเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเป็นลมไปก่อน” เมแซว ทุกคนพากันหัวเราะขำ
ช่วยกันทำบุญบ้านเสร็จแล้ว ทุกคนอิ่มเอิบสบายใจ เรือนเล็กก็ดูสว่างไสวโปร่งโล่งสวยงาม