ตอนที่ 15
เทิดพูดถึงเหตุการณ์ขณะนั้นอย่างละอายใจว่า
“ในเวลานั้น ข้าคิดแต่จะแก้แค้นให้สะใจ จนไม่นำพาความปรารถนาดีของพ่อหมอแม้แต่น้อย”
“แต่ยังไงเสีย เราก็รู้แล้วว่ามีวิธีที่จะแก้คำสาปได้แน่ และมันก็จะทำให้พี่เทิดกับแม่ดวงหลุดพ้นจากอำนาจไสยดำ” พุกพูดอย่างกระตือรือร้นมีความหวัง
“แล้วผู้ใดจะเป็นคนบอกวิธีแก้คำสาปนี้ได้เล่า” เทิดพึมพำ ทั้งสามมองหน้ากันต่างก็คิดไม่ออก
เมื่อหลวงพ่อไม่อยู่ ปกรณ์จึงกลับมานั่งสมาธิที่ห้องพระที่บ้าน อิงอรเฝ้ามองอยู่อย่างร้อนใจ พอเห็นปกรณ์ออกจากสมาธิก็รีบถาม
“เป็นยังไงบ้างคะพี่กรณ์”
“ครูเทิดยังหาวิธีที่จะถอนคำสาปไม่ได้”
“แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะคะ ใครจะบอกวิธีถอนคำสาปแช่งได้” อิงอรกังวลมาก
“คงมีแต่หลวงพ่อเท่านั้น ที่จะให้คำแนะนำในเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าท่านไปอยู่ไหน”
“แต่ถ้าเรารอจนหลวงพ่อกลับจากธุดงค์คงไม่ทันกาลแน่ๆเลยค่ะ”
“พี่จะลองถอดดวงจิตออกตามหาหลวงพ่อดู” อิงอรจับมือปกรณ์อย่างห่วงใย ปกรณ์บอกว่า “ไม่ต้องห่วง พี่ดูแลตัวเองได้”
ปกรณ์พูดแล้วหันไปนั่งสมาธิด้วยสีหน้าท่าทางสงบก่อนเข้าฌานอย่างรวดเร็ว
อิงอรยังนั่งเฝ้ามองกายหยาบของปกรณ์อยู่อย่างมีความหวังและกังวล
ดวงจิตปกรณ์ปรากฏขึ้นในป่ามองรอบๆแล้วก็ต้องผิดหวัง ไปหลายที่หลายแห่งก็ต้องผิดหวัง
ไม่มีวี่แววของหลวงพ่อเลย
“กว่าจะได้พบหลวงพ่อ ทุกอย่างอาจจะสายเกินไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราคงต้องลองเสี่ยงดูสักครั้ง”
ปกรณ์ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ooooooo
ปกรณ์นั่งสมาธิอยู่จนเช้า อิงอรแง้มประตูห้องพระดูด้วยความเป็นห่วง ก็พอดีมีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น อิงอรรีบไปเปิดประตูรับยชญ์กับเมพาเข้าบ้าน
ยชญ์บอกว่าที่มาแต่เช้าเพราะร้อนใจเรื่องคุณทวดเทิด ถามว่าคุณปกรณ์ยังไม่ตื่นหรือ
“พี่กรณ์นั่งสมาธิตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกจากสมาธิเลย”
“นั่งนานขนาดนั้นไม่เป็นอะไรเหรอคะ”
“พี่ก็เป็นห่วงอยู่ค่ะ เพราะพี่กรณ์ไม่เคยนั่งข้ามวันข้ามคืนแบบนี้”
ยชญ์ถามว่าคุณปกรณ์บอกหรือเปล่าว่าจะไปไหน
“พี่กรณ์ออกไปตามหาหลวงพ่อ เพราะเชื่อว่าหลวงพ่อจะสามารถแนะนำเกี่ยวกับการถอนคำสาปได้ค่ะ”
“ก็แสดงว่าคงยังไม่พบหลวงพ่อ” ยชญ์คาด
“ถ้าอย่างนั้น พี่กรณ์ก็น่าจะกลับมาก่อน” อิงอรเปรย เมถามว่าพี่อรคิดอะไรอยู่หรือ “พี่กลัวว่าพี่กรณ์จะใจร้อนแล้วหาทางไปช่วยครูเทิดด้วย
ตัวเอง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับดวงจิตของพี่กรณ์ พี่กรณ์จะไม่สามารถกลับเข้าร่างได้ค่ะ”
ทุกคนนิ่งไปด้วยความเป็นห่วงปกรณ์มาก
เมื่อกลับไปนั่งกันที่โต๊ะใต้ต้นไม้หน้าตึกคณะศิลปกรรม เมถามยชญ์ว่าเราจะทำยังไงดี ตนเป็นห่วงพี่ปกรณ์ ครูเทิด ครูพุก และคุณดวง บอกว่า
“ฉันอยากจะช่วยอะไรบ้างแต่ก็ไม่รู้จะช่วยได้ยังไง”
“สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือเอาใจช่วยให้คุณปกรณ์ตามหาหลวงพ่อให้เจอเพื่อจะได้รู้วิธีที่จะถอนคำสาป”
เมว่าเราก็คงทำได้แค่นี้ ยชญ์บอกว่าเธอยังทำได้อีกอย่าง คือตั้งใจซ้อมเพลงท่วมธรณีให้ดีที่สุด เมบอกว่าเหลือเวลาอีกแค่วันเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแข่งแล้ว ถ้าถอนคำสาปไม่ได้เราก็ต้องถอนตัวจากการประกวด
“คิดในแง่บวกสิ เรายังเหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งวันกับหนึ่งคืน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ฉันก็ยังมั่นใจว่าเราจะผ่านไปได้”