ตอนที่ 15
เทิดกับดวงกราบหลวงพ่อเคียงกันด้วยความตื้นตันใจ หลวงพ่อมองและเอ่ยเปี่ยมด้วยเมตตา
“สิ้นเวรหมดกรรมเสียทีนะโยมดวง”
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะหลวงพ่อ” ดวงเอ่ยแล้วหันมองปกรณ์กับพุก “พ่อกล้าพี่พุกด้วยนะคะ”
“ฉันดีใจด้วยจริงๆที่เห็นแม่ดวงหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน” พุกเอ่ย ดวงยิ้มแล้วหันไปทางปกรณ์
“ขอบใจพ่อกล้าเหลือเกินที่ช่วยทำให้พี่เทิดเข้าใจทุกอย่าง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำและแก้ไขอยู่แล้ว”
“แต่ในเวลานี้เจ้าควรรีบกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด และอย่าทำอะไรที่เสี่ยงกับชีวิตแบบนี้อีก”
หลวงพ่อเตือนปกรณ์อย่างเป็นห่วงและเมตตา
ทุกคนก้มกราบหลวงพ่อ แล้วดวงจิตปกรณ์ก็กลายเป็นลูกไฟสีขาวลอยหายไปอย่างเร็ว เทิดมองตามพึมพำ
ไอ้กล้ามันเป็นคนดีเหลือเกิน เสียดายที่ข้าไม่มีโอกาสได้ตอบแทนความดีของมัน”
“หากยังมีบุญวาสนาต่อกัน สักวันก็คงได้กลับมาชดใช้ให้กันอีก”
เทิดฟังแล้วมองหลวงพ่ออย่างแปลกใจ
กายหยาบของปกรณ์ยังนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชาในห้องพระที่บ้าน อิงอรก็ยังนั่งพับเพียบห่างๆ เฝ้ามองอย่างเป็นห่วง ได้แต่ภาวนาในใจ...
“พี่กรณ์อย่าเป็นอะไรนะคะ พี่ต้องกลับมาหาอรนะคะ”
ทันใดนั้น กายหยาบของปกรณ์โงนเงนแล้วค่อยๆล้มลงด้านข้าง อิงอรตกใจสุดขีด รีบลุกขึ้นประคองร่างปกรณ์ ร้องเรียก ถามอย่างตกใจมาก
“พี่กรณ์...พี่กรณ์เป็นอะไรคะ” ปกรณ์นิ่งไม่ไหวติง อิงอรยิ่งตกใจ ร้องไห้พร่ำบอก “ไม่นะพี่กรณ์
...พี่อย่าทิ้งอรไป อรรักพี่...อรรักพี่นะคะ ได้ยินไหม”
“ได้ยินแล้วจ้ะ” ปกรณ์ลืมตามองอิงอรเปี่ยมด้วยความรัก อิงอรดีใจละล่ำละลักถาม
“พี่กรณ์ พี่ไม่ได้เป็นอะไร พี่กลับมาแล้วใช่ไหม...”
ปกรณ์ลุกขึ้นนั่งโอบกอดอิงอรไว้ บอกด้วยความยินดีว่า
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ครูเทิดถอนคำสาปและช่วยวิญญาณคุณดวงสำเร็จแล้ว”
อิงอรดีใจมาก เอะใจถามว่า “เมื่อกี้พี่กรณ์แกล้งอรใช่ไหมคะ อรตกใจหมดนึกว่าพี่กรณ์ทิ้งอร
ไปซะแล้ว”
“ต่อให้พี่ต้องบุกน้ำลุยไฟ พี่ก็จะกลับมาหาอรให้ได้ พี่จะไม่มีวันทิ้งอร พี่สัญญา”
อิงอรโผกอดปกรณ์ด้วยความรักหมดหัวใจ ปกรณ์กอดอิงอรไว้ในอ้อมอกอย่างอบอุ่น ทั้งสองกอดกันเปี่ยมด้วยความสุข...
ooooooo
ยิ่งใกล้เวลาการแข่งขัน “งานสังคีตศิลป์ถิ่นไทย” เม มิ่ง และนักดนตรีต่างรอลุ้นอยู่หลังเวทีขณะรอยชญ์ไปจับสลากลำดับการแข่งขัน
มิ่งถามเมว่าพี่ยชญ์จะจับสลากได้เล่นเป็นลำดับที่เท่าไร เมว่าไม่รู้ แต่ขออย่าเป็นวงแรกเลย ทันใดนั้นยชญ์เข้ามาบอกทุกคนว่า
“พวกเราได้เล่นเป็นวงแรกอีกแล้ว”
เมมองหน้ายชญ์สีหน้าไม่ดี ยชญ์ก็มองเมอย่างไม่สบายใจ ไม่ทันไรโทรศัพท์ของยชญ์ก็ดังขึ้น เขาเปิดดูแล้วบอกเมอย่างตื่นเต้นว่า “คุณปกรณ์” เมตื่นเต้นดีใจมาก
เมกับยชญ์วิ่งไปด้านหลังหอประชุม เห็นปกรณ์กับอิงอรรออยู่แล้ว ไหว้สวัสดีแล้วยชญ์ถามอย่างร้อนใจ
“เป็นยังไงบ้างครับคุณปกรณ์”
“ทุกอย่างจบแล้วครับ” เห็นเมกับยชญ์มองอย่างไม่เข้าใจก็พูดต่อ “จบลงด้วยดีครับ ไม่มีคำสาป ไม่มีอาถรรพณ์อะไรอีกต่อไปแล้ว”
ยชญ์กับเมดีใจจนลืมตัวจับมือกันเขย่ามองหน้ากันพูดไม่ออก อิงอรกับปกรณ์เห็นท่าทีของทั้งสองก็มองหน้ายิ้มให้กันอย่างดูออก ต่างก็ดีใจกับทั้งสองด้วย
เมื่อต้องขึ้นเวทีเป็นวงแรก ทุกคนเตรียมพร้อม พอพิธีกรขึ้นเวทีก็มารวมกลุ่มข้างเวทีรอเรียกอย่างตื่นเต้น