ตอนที่ 13
“ยังไม่รู้สึกตัวครับ คงต้องรอดูผลเอกซเรย์สมองอีกทีเพราะศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง” เมรีบถามว่าเข้าเยี่ยมได้ไหม “หมอเข้าใจนะครับว่าทุกคนเป็นห่วง แต่หมอต้องขอโทษที่ยังให้เข้าเยี่ยมไม่ได้ หมอขอตัวก่อนนะครับ”
จำเนียรร้องไห้โฮ คร่ำครวญ “ทำไมโชคร้ายแบบนี้ มีแต่เรื่องเข้ามาไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน”
“ไม่ต้องห่วงนะครับ คนดีอย่างคุณยชญ์พระย่อมคุ้มครอง คุณยชญ์ต้องปลอดภัยครับ” ปกรณ์ปลอบ
เมเดินไปยืนที่หน้าห้องไอซียู พูดอย่างเป็นห่วง
“อย่าเป็นอะไรนะนายยชญ์ ถ้านายไม่อยู่แล้วฉันจะทะเลาะกับใคร”
อิงอรเข้าไปยืนเอามือแตะไหล่เมอย่างปลอบใจ เมหันกอดอิงอรน้ำตาไหลเงียบๆ ทุกคนเงียบงันอย่างเข้าใจและเห็นใจ...
ooooooo
เทิดกับพุกเดินไปอย่างมุ่งมั่น แต่ถูกไอดำ ของไสยดำฟุ้งไปทั่วจนสับสนทิศทาง เทิดถามพุกว่า
“ข้าสัมผัสถึงแม่ดวงไม่ได้แล้ว ไปทางไหนต่อล่ะไอ้พุก”
“ฉันก็ไม่รู้ เราถูกไสยดำปั่นหัวเข้าให้แล้ว”
“มันต้องมีสิ” เทิดมั่นใจแล้วเดินหายวับไป อึดใจเดียวก็เดินกลับมาที่เดิม ทดลองเดินใหม่ก็เหมือนเดิมอีก “บ้าจริง!! ไสยดำ แน่จริงมึงออกมา ตัวๆกับกู ออกมา!”
ไอดำยิ่งฟุ้งใส่จนทั้งสองสำลัก พุกบอกเทิดว่าต้องทำสมาธิ เพ่งจิตตามหาแม่ดวง
“คนบาปหนาอย่างกู ทำไม่ได้หรอก”
“ได้สิพี่ ไอ้กล้ามันแบ่งผลบุญมาให้พี่ไม่ใช่รึ”
“จริงด้วย...กูต้องทำได้” เทิดนึกได้ ทรุดลงนั่งสมาธิ หลับตา ไอดำพุ่งเข้าล้อมเทิดกับพุก เทิดอ่อนแรงล้มลงแต่ยังนิ่งไม่สะทกสะท้าน
ทันใดนั้นเกิดดวงแก้วสีทองลอยลงมาจาก ท้องฟ้า ไอดำสลายไปในพริบตา เทิดลืมตาขึ้นมองดวงแก้วเอ่ยซาบซึ้ง
“ขอบใจนะไอ้กล้า อำนาจแห่งพุทธคุณที่เอ็งสะสมมา เอ็งยอมสละเพื่อกูหมดแล้ว”
“บุญยิ่งให้ยิ่งได้ นี่คือความตั้งใจของไอ้กล้า ในฐานะลูกคนหนึ่งพึงทำเพื่อพ่อได้”
พุกปลอบใจเทิด แล้วคิดถึงเรื่องราวในอดีตหลังจากที่กล้ารอดตายมาได้...
ooooooo
บรรยากาศกลางป่าที่สงบ เยือกเย็น ยชญ์สีซอที่หน้ากระท่อม เมนั่งฟังอย่างมีความสุข พอยชญ์สีซอจบ เมปรบมือชม
“เพราะมาก นายสีซอได้เก่งจริงๆ ฉันอยากฟังอีก นายสีให้ฉันฟังอีกนะ”
“ก็ได้ แต่เธอต้องเล่นให้ฉันฟังบ้างนะ”
เมบอกว่าตนเล่นไม่เป็นหรอก ยชญ์ถามขำๆว่า
“ทำไมจะเล่นไม่เป็นล่ะ เธอก็เล่นอยู่เป็นประจำ”
เมอึ้ง ยชญ์ยื่นซอให้คะยั้นคะยอให้เล่น เมจึงรับซอมาท่าทางเก้กังเหมือนคนไม่เคยจับซอมาก่อน แล้วลองสีซอ ปรากฏว่าออกมาไม่เป็นเพลง ยชญ์ถามแปลกใจว่า
“ทำไมเธอสีซอแบบนั้นล่ะเม เหมือนคนไม่เคยเล่นซอมาก่อนเลย”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเล่นไม่เป็น”
“เธอเป็นนักดนตรีของมหาวิทยาลัย ไปประกวดตั้งกี่ที่แล้ว จะเล่นไม่เป็นได้ยังไง นี่เธอจะแกล้งทำให้ฉันขำใช่ไหม”
เมกุมหัวตัวเองเครียดบอกว่าตนจำไม่ได้จริงๆ ว่าเคยเล่นซอเป็น แล้วร้องโอ๊ย...ปวดหัว ยชญ์ตกใจรีบบอกว่า
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ อาจเป็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ หัวเธออาจจะกระแทกอย่างรุนแรงจนจำอะไรไม่ได้”
“นั่นสิ บางทีเวลาฉันคิดอะไรมากๆก็รู้สึกปวดหัว เหมือนกัน” เมได้ช่องผสมโรงทันที
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องคิด เล่นไม่ได้ก็ไม่ต้องเล่น ฉันจะเป็นคนเล่นให้เธอฟังเองก็แล้วกัน ตกลงไหม”