ตอนที่ 13
ทันใดนั้นเสียงดนตรีเพลงท่วมธรณีดังขึ้น เทิดชะงักเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า อุทาน “คืนเพ็ญ!!”
พอเทิดมองลงมาก็ตกใจ เมื่อเห็นสินและผีพรายที่เป็นนักร้อง กำลังเล่นเพลงท่วมธรณีอยู่ข้างหน้า
“ครูเทิด!! ถึงเวลาที่พวกกูจะชำระแค้นแล้ว” สิ้นเสียงสิน ผีพรายก็ร้องเพลงท่วมธรณีท่อนที่แสดงความเจ็บปวดกับความรักอย่างสาหัส...
“แสนเจ็บแดดิ้นแทบสิ้นชีวา เหมือนคนควักอุราแล้วมาขยี้...เสียงสะอื้นโศกาแทบวายฤดี เสียแรงที่รักที่ห่วงดั่งดวงกมล...”
เทิดคลำที่หน้าอกอย่างเจ็บปวดจนล้มลง ปากก็พร่ำอย่างรู้สึกผิด...
“เวรกรรมมันย้อนกูแล้ว...อ๊ากกกกก...กูผิดเอง ที่ใช้ความสามารถไปในทางที่ผิด”
“พี่เทิด...พี่ต้องฝืนไว้ อย่าตกอยู่ในอำนาจของมัน”
สินกับพวกเล่นเพลงท่วมธรณีอย่างดุดัน ผีพรายที่เป็นนักร้อง ก็ร้องอย่างเจ็บแค้นอาฆาต...
“ขอสาปตราบสิ้นดินฟ้าสลาย ให้เสียใจแม้ชาติไหนขอให้ทุกข์ทรมาน...”
“เสียงเพลง เสียงดนตรี ควรมีไว้ประโลมจิตใจคน แต่กูกลับใช้มันเป็นอาวุธสังหารชีวิตอย่างเลือดเย็น” เทิดพูดอย่างเจ็บปวดกับความผิดพลาดของตัวเอง เลือดเริ่มไหลออกจากหูย้อยลงมาที่ไหล่
“ฉันจะไม่ยอมให้พี่เป็นอะไร ไอ้กล้า...ช่วยพ่อมึงด้วย”
พุกมองดวงแก้วที่ลอยอยู่ ดวงแก้วค่อยๆลอยลงมาในมือพุกแล้วกลายเป็นซอสามสาย...
เวลาเดียวกัน ยชญ์ก็ถือซอสามสายออกมาจากกระท่อม เมทักท้วงเสียงเครียดว่า
“นี่ยังมีอารมณ์จะสีซออีกเหรอ”
“ฉันเอามาช่วยแพร เธอจำเพลงคู่แฝดที่เหมือนเพลงท่วมธรณีได้ไหม”
“ได้สิ...แล้วเพลงนั้นจะช่วยแพรได้จริงเหรอ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่มันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ เธอสีซอนะ เดี๋ยวฉันร้องเพลง”
“พี่เพิ่งฟังไปไม่กี่ครั้งเอง จำเนื้อเพลงได้แล้วหรือ”
“ได้สิ ฉันจำได้อย่างขึ้นใจเลย” ยชญ์ตอบอย่างมั่นใจ
เมเริ่มสีซออย่างมีความหวังที่จะช่วยแพรให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน
ยชญ์จำได้ฝังใจว่าวันที่แพรร้องเพลงท่วมธรณีจบแล้วขาดใจตายกลางเวทีนั้น เขากลับไปค้นหาโน้ตเพลงที่หีบโบราณบ้านวิจิตรวาทินเพื่อจะแก้อาถรรพณ์เพลงท่วมธรณีให้ได้
เจอหีบใบหนึ่ง ยชญ์ดีใจยกลงมาเขย่าดูก็ไม่มีเสียงผิดปกติ เขาวางหีบลงทุบอย่างหงุดหงิด เสียงทุบกลวงๆ ยชญ์ชะงักรีบคลำฝาหาที่เปิด เจอช่องลับ ยชญ์ดึงกลไกที่ฝาหีบโบราณออก
พริบตานั้น! กระดาษโน้ตเพลงเก่าจนกระดาษเหลืองกรอบ ร่วงลงมา ยชญ์หยิบโน้ตเพลงขึ้นดูอุทานอย่างตื่นเต้น
“เพลงชั่วนิจนิรันดร์ เพลงที่ทวดพุกเล่นตอนนั้น”
ยชญ์อ่านเนื้อเพลงอย่างตั้งใจ...เนื้อเพลงชั่วนิจนิรันดร์ตราตรึงในความทรงจำยชญ์นับแต่บัดนั้น...
ooooooo
พุกทั้งสีซอและร้องเพลงชั่วนิจนิรันดร์ที่เป็นเพลงแฝดแก้เพลงท่วมธรณีของเทิดอย่างจริงจังหวังช่วยเทิดที่เริ่มมีเลือดไหลออกจากหูแล้ว...
“รักเจ้าตราบสิ้นดินฟ้าสลาย แม้ชีพวายรักไม่คลายแม้ยามร้างลา รู้หรือไม่ฤทัยพี่ห่วงหาน้องยา
พี่จะมีเจ้าคนเดียวในใจ...”
ฝ่ายสินกับพวกไม่ยอมแพ้ สินหันไปพยักหน้าให้ผีพรายที่เป็นนักร้อง ผีพรายเพ่งไปที่เทิดร้องเพลงท่วมธรณีท่อนที่แสดงความอาฆาต...
“ให้น้ำตาท่วมธรณี ให้ชีพนี้ตายตกตามไป ให้แผ่นดินกลบฝัง ตามสนองทุกชาติเถิดหนา...”