ตอนที่ 13
ไม่นานพนักงานก็มาเคาะประตูบอกว่าเอาอาหารมาส่ง สร้อยทองเปิดประตูเห็นพนักงานยกถาดจานอาหารมีฝาครอบอย่างดี
“แหม ท่าทางน่ากินนะ เสิร์ฟอย่างกับภัตตาคารหรูๆเลย...” ยกอาหารมาวางบนเตียงพึมพำ “ถึงห้องจะสกปรกไปหน่อยแต่อาหารก็ดูใช้ได้ ถือว่าเจ๊าๆกันไป”
แต่พอเปิดฝาครอบจานออก สร้อยทองเห็นของในจานถึงกับผงะกรี๊ดสุดเสียง เพราะมันเป็นนิ้วมือยางที่ตัดแค่ข้อวางเรียงกันอยู่ในจาน มีเลือดปลอมราดมาบนนิ้ว สร้อยทองมองอย่างสยอง
ไม่ทันไรเสี่ยนภก็โทร.เข้ามาถามอ่อนหวาน “ไงจ๊ะที่รัก คิดว่าออกไปนอนโรงแรมแล้วจะหนีฉันได้เหรอ...นี่แค่ออเดิร์ฟเล็กๆน้อยๆนะ”
“ไอ้สารเลว ไอ้ชั่ว...แกจะข่มขู่ฉันมากเกินไปแล้วนะ”
“ฉันไม่ได้ขู่ ฉันทำจริง เหลือเวลาอีกแค่วันเดียวเท่านั้นนะ ถ้าพรุ่งนี้แกยังไม่มีเงินสิบล้านมาคืนฉัน ต่อให้แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ฉันก็จะตามตัดนิ้วแกให้ครบสิบนิ้วจนได้”
เสี่ยพูดเหี้ยมแล้ววางสายเลย สร้อยทองตะโกนด่าใส่โทรศัพท์เสียงสั่น
“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ฉันไม่กลัวแกหรอก”
สร้อยทองด่าอย่างท้าทายกล้าหาญแต่เสียงสั่น เพราะความกลัว
ooooooo
เช้านี้เฟื่องลดาตื่นสายเพราะเมื่อคืนกลับดึก เธอตกใจเมื่อลืมตาเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆส่องเข้าห้องแล้ว ลุกพรวดไปเปิดประตูกลางเห็นแต่ห้องเปล่า
เฟื่องลดาวิ่งกลับมาจัดการกับตัวเองอย่างเร็วแล้วรีบลงไปที่โต๊ะอาหาร เห็นทัฬห์กับลูกแก้วนั่งรออยู่แล้ว ลูกแก้วดีใจบอกว่า
“พี่ลดามาแล้ว”
เฟื่องลดาเข้าไปหาลูกแก้วยิ้มให้แต่ตามองเลยไปที่ทัฬห์ ถามอย่างไม่สบายใจว่า
“ทำไมไม่ปลุกฉันล่ะคะ ฉันจะได้ช่วยแต่งตัวให้คุณ”
“เห็นเมื่อคืนเธอกลับดึก คิดว่าคงง่วง เลยไม่อยากรบกวน ฉันพอทำเองได้แล้ว” ทัฬห์ตอบนิ่งๆเรียบๆ ทั้งที่ไม่สบายใจ
เมื่อเฟื่องลดานั่งที่ของตัวเองแล้ว สาเอาจานอาหารเข้ามาเสิร์ฟทัฬห์เป็นเมนูไส้กรอกไข่ดาว ทัฬห์มองอาหารในจานเห็นดวงใจเอาข้าวต้มมาให้ลูกแก้ว จึงบอกสาว่า
“วันนี้ขอข้าวต้มดีกว่า”
“ไม่มีค่ะ”
“แล้วนั่นไม่ใช่ข้าวต้มเหรอ”
สาบอกว่าป้าใจทำให้คุณหนูลูกแก้วเท่านั้น เฟื่องลดารีบลุกไปจะหั่นไส้กรอกให้ ทัฬห์ขอบใจแต่ไม่ต้องหรอก วันนี้ตนไม่หิว แล้วบอกสาว่าวันนี้ขอกาแฟแก้วเดียวพอ
เฟื่องลดาอึ้งๆ กลับไปนั่งที่ของตน ดวงใจกับสามองหน้ากันแปลกใจที่แผนของตนล้มเหลว แอบมองทัฬห์เห็นสีหน้าค่อนข้างขรึม
แต่พอไปถึงห้องทำงานที่โรงแรม ทัฬห์ก็บอกเลขาว่าขออะไรรองท้องหน่อย แซนด์วิชง่ายๆก็ได้ เลขาถามว่าจะเอาชาหรือกาแฟดี ทัฬห์ว่าเอาชาดีกว่า เมื่อเช้าดื่มกาแฟมาแล้ว
“แต่มีแขกมารอพบคุณทัฬห์นะคะ” ทัฬห์ถามว่าเช้านี้ตนไม่มีนัดไม่ใช่หรือ “ดิฉันบอกแล้วค่ะว่าต้องนัดก่อน แต่เธอบอกว่าไม่จำเป็น เพราะเธอ...เอ้อ...”
“ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องนัด” ทัฬห์ขัดขึ้นทันที
“เธอบอกว่าเป็นแม่ยายของคุณทัฬห์ค่ะ”
ทัฬห์นิ่งไปนิดหนึ่งแต่สีหน้ายังปกติ แล้วลุกเดินไป เลขามองตามถอนใจโล่งอกที่รอดตัวหวุดหวิด
ooooooo
พอสร้อยทองได้พบทัฬห์ก็ขอโทษที่มาพบโดยไม่ได้นัดก่อนเพราะมีเรื่องสำคัญมาก ทัฬห์บอกว่าถ้าเป็นเรื่องที่ขอมาอยู่ที่บ้านนี้ตนรู้แล้วและบอกเฟื่องลดาไปแล้วว่าตนยินดีต้อนรับ ถามว่าเฟื่องลดายังไม่ได้บอกหรือ