ตอนที่ 13
ด้านฟ้าใสที่โดนพ่อดุก็กระวนกระวาย แอบโทร.หาบอลอยู่ครู่หนึ่งกว่าเขาจะรับสาย
“บอล...ฟ้าเป็นห่วงแทบแย่ พ่อว่าอะไรบอลหรือเปล่า”
“ไม่หรอก แต่ท่านรู้แล้วว่าบอลโกหก”
“แย่จัง แต่ไม่เป็นไรหรอก ไว้ฟ้าจะหาโอกาสคุยกับพ่อเองนะ อย่าเพิ่งท้อใจล่ะ พ่อชอบขู่ไปอย่างนั้นเองแหละ”
“จริงๆบอลก็ผิดที่โกหกผู้ใหญ่ เราไม่ควรทำแบบนี้เลย”
“จะมาสำนึกผิดอะไรตอนนี้ เราต้องเดินหน้าต่อ”
“คนเราทำผิดต้องรู้จักขอโทษ ถ้าทำผิดแล้วไม่รู้ว่าผิด ต่อไปใครเขาจะเชื่อถือ บอลว่าเราสองคนอย่าเพิ่งติดต่อกันเลยนะเพื่อความสบายใจของทุกคน” พูดเสร็จบอลวางสายทันที ฟ้าใสร้อนใจกดโทรศัพท์หาบอลรัวๆ แต่เขาปิดเครื่องไปเสียแล้ว
ooooooo
ดินแดนหนักใจไม่รู้จะหาทางบอกบุษบาบรรณยังไงดีเรื่องที่โกหกว่าเขาเป็นหัวหน้าคนงาน แต่คิดว่าจะทำตามคำแนะนำของภูวดลที่ว่าให้หาช่วงเวลาพิเศษ
เย็นนี้บุษบาบรรณมาเยี่ยมดินแดนที่โรงพยาบาลพร้อมสริยา ภูวดลพาสริยาออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้สองคนอยู่กันตามลำพัง ดินแดนไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมายแต่ทำสำออยอ้อนบุษบาบรรณเหลือเกิน ซึ่งเธอก็รู้ทันแต่ยอมทุกอย่างด้วยความรัก
เอกภพกับอักษรตั้งใจมาเยี่ยมดินแดนเช่นกัน แต่เอกภพอยากไปดูอาการดนัยก่อนจึงโกหกอักษรว่าเจอคนรู้จัก ให้เธอเข้าไปหาดินแดนก่อน
เมื่อมาที่ห้องพักฟื้นของดนัย ปรากฏว่าชาญชัยอยู่ข้างเตียง สองคนเห็นสภาพดนัยแล้วอดเวทนาไม่ได้ ชาญชัยพูดกับเอกภพว่าตนเฝ้ารอวันนี้มาตลอดชีวิต แต่พอมาถึงจริงๆ กลับไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย
“ผมก็เหมือนกัน”
“ฉันไม่อยากให้นายตายหรอกนะดนัย เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดฉันถือว่าอโหสิกรรมกันไป นายกับฉันจะได้ไม่ต้องมีเวรมีกรรมต่อกันอีก”
“เขาไม่ได้ยินหรอกครับพี่ชาญ เราไปกันเถอะ”
ทันทีที่ทั้งคู่คล้อยหลัง ดนัยลืมตาโพลง แววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น...
ที่ห้องดินแดน อักษรเข้ามาเห็นบุษบาบรรณปอกผลไม้ป้อนคนป่วยที่นอนหน้าระรื่นก็นึกหมั่นไส้ลูกชายตัวดี แต่แล้วดินแดนเกิดอาการสำลักผลไม้เมื่อได้ยินบุษบาบรรณถามว่าพ่อกับแม่เขารู้เรื่องหรือยัง ขณะที่อักษรพลอยหน้าเจื่อนไปด้วย ลุ้นว่าลูกชายจะตอบยังไง
“รู้แล้ว แต่เขายังไม่ว่างมา”
“แสดงว่านายทำตัวไม่น่ารัก พ่อแม่ถึงไม่อยาก มาดูใจ”
“เบาๆหน่อยแม่คุณ เกรงใจคุณน้าอักษรบ้างสิ”