ตอนที่ 13
“คุณน้าว่าจริงไหมคะ นายดินเนี่ยเหลือขอ ดื้อด้าน ใครเป็นพ่อแม่ต้องแอบกลั้นใจวันละหลายรอบ”
“นั่นน่ะสิ น้าเองยังเหนื่อยใจแทนเลย เอาล่ะ ฉันไปนะนายดิน หวังว่าจะหายเร็วๆนะ บุษบาดูแลนายดินด้วย ถ้าเขาดื้อ ฉันอนุญาตให้จัดการได้เลยไม่ต้องเกรงใจ อัดให้น่วมเลย”
บุษบาบรรณยิ้มรับแล้วเดินตามไปส่งอักษร ระหว่างนี้อักษรฝากฝังหญิงสาวดูแลดินแดนแทนด้วย
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง บุษจะดูแลเขาเอง”
“ดินแดนเป็นคนดื้อหัวแข็ง บางทีเขาคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนคนอื่น หนูต้องเข้าใจเขามากๆนะ อดทนกับเขาด้วย”
“ค่ะคุณน้า”
“ไปเถอะ ไม่ต้องลงไปส่งน้าหรอกจ้ะ ไปดูนายดินเถอะ” อักษรรุนหลังบุษบาบรรณให้กลับเข้าห้อง พอเธอลับกายก็ถอนหายใจเฮือก บ่นอย่างหนักใจแทนลูกชาย “ตาดินนะตาดิน หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ โกหกสร้างเรื่องเก่งที่สุด ทีนี้จะทำยังไง”
เมื่อไปถึงหน้าลิฟต์ อักษรเจอเอกภพกับชาญชัยโผล่ออกมา ชาญชัยจะมาเยี่ยมดินแดนแต่อักษรท่าทีละล้าละลังพลางมองเอกภพแล้วบอกว่าดินแดนอยู่กับบุษบาบรรณ ชาญชัยเข้าใจ บอกลาและว่าไว้คราวหน้าจะมาใหม่ แต่ไม่ทันจะลงลิฟต์ไปก็เจอสริยาขึ้นมาพร้อมภูวดล
สีหน้าท่าทีของชาญชัยที่มีต่อภูวดลเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ตำหนิหรือว่ากล่าวอะไรเหมือนเมื่อก่อน ได้แต่ชวนสริยากลับบ้าน
สองพ่อลูกกลับไปได้ครู่เดียว ภูวดลก็ได้รับแจ้งจากพยาบาลว่าดนัยฟื้นแล้ว ภูวดลรีบไปดูทันทีแต่อักษรลังเลบอกเอกภพว่าตนไม่อยากเข้าไป
“ทำไมล่ะ”
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา ฉันเกลียด ฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีก แต่ฉันก็ไม่อยากให้ภูรู้สึกว่าฉันเกลียดพ่อแท้ๆของเขามากแค่ไหน”
“คุณต้องปล่อยวางได้แล้ว ผมเจอพี่ชาญในห้องดนัย เขาอโหสิกรรมทุกอย่างให้ แล้วก็ปล่อยวางแล้ว”
“ไม่ค่ะ ฉันทำไม่ได้ คุณชาญแค่เจ็บปวดที่ถูกโกง แต่กับษร...เขาทำกับษรมากกว่านั้น คุณก็รู้นี่คะ อย่าเลยค่ะ ษรไม่อยากให้ตาภูรู้สึกแย่ๆ” อักษรหันหลังเดินออกไป เอกภพก้าวตามด้วยความเป็นห่วง
ooooooo
ดนัยฟื้นแต่ขยับตัวไม่ได้ มีเพียงสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดที่ทั้งภูวดลและพยาบาลคาดเดาได้ว่าเขารับไม่ได้กับสภาพแบบนี้ของตัวเอง
ภูวดลพยายามทำความเข้าใจเพราะพ่อรับรู้แต่ขยับตัวและพูดไม่ได้ แต่กระนั้นดนัยก็แสดงสีหน้าโมโหอยากอาละวาด จนภูวดลต้องยอมกลับออกมาอย่างเศร้าใจ