ตอนที่ 13
“ฉันแค้นมัน อยากให้มันตาย ตอนนี้มันเจ็บซะยิ่งกว่าตาย ฉันเจ็บมาเป็น 20 ปี คราวนี้ถึงตาของมันบ้างแล้ว”
“คุณพ่อแบกความแค้นมาตั้ง 20 ปีเชียวหรือคะ มันมากเกินไปแล้วค่ะ คุณพ่อต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนี้มาตลอด ริยาคิดว่ามันไม่น่าจะทำให้คุณพ่อมีความสุขหรอกนะคะ ลืมมันไปซะเถอะ เรื่องมันจบลงแล้ว”
ฟังคำลูกแล้วชาญชัยนิ่งไปอย่างครุ่นคิด
ooooooo
สริยามาเห็นภูวดลยืนหน้าเศร้าเกาะกระจกมองดนัยที่อยู่ในห้องติดเครื่องช่วยชีวิต เธอเข้ามาแตะไหล่เขาเบาๆอย่างปลอบใจ ถามว่าพ่อของเขาเป็นยังไงบ้าง
“หมอบอกว่ากระสุนตัดเส้นประสาทไขสันหลังอาจจะเป็นอัมพาตตลอดชีวิต”
“โธ่...ไม่น่าเลย ริยาเข้าใจค่ะว่าพี่ภูลำบากใจแค่ไหน”
“ตอนนี้พี่เป็นห่วงดินแดน ไม่รู้ว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยังไงก็ยังมีบุษบาอยู่ด้วยทั้งคน”
“หวังว่าคราวนี้ดินแดนกับบุษบาจะเข้าใจกันได้ซะที”
“พี่ภูล่ะคะ เสียดายหรือเปล่า”
“เสียดายสิ เสียดายมาก...เสียดายที่สองคนนั้นรู้ตัวช้าจัง ทำให้พี่เดือดร้อน เพราะพี่รู้ใจตัวเองมาตั้งนานแล้ว และไม่เคยคิดเปลี่ยนใจเลยสักครั้ง”
สริยามองภูวดลด้วยความรัก...เวลาเดียวกันนั้นเอกภพกับอักษรคุยกันอยู่ที่บ้าน อักษรยอมรับว่าห่วงดนัยที่อาการหนัก แต่ห่วงในฐานะที่เขาเป็นพ่อของภูวดล
“ถ้าไม่ห่วงสิแปลก นั่นไม่ใช่คุณเลย”
“ขอบคุณที่คุณเข้าใจฉัน ไม่รู้ดินจะเป็นยังไงบ้าง”
“อย่าวิตกเลย เจ้าดินมันไม่ตายง่ายๆหรอก มันหัวแข็งยังกะอะไรดี ที่แถวนี้มันชำนาญยิ่งกว่าผมซะอีก ส่วนเรื่องภู...รอเวลาอีกซักหน่อย ผมเชื่อว่าชาญชัยต้องเข้าใจ”
“คุณคิดอย่างนั้นหรือคะ”
“จริงๆเขาไม่ใช่คนใจร้ายอะไรหรอกนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าดนัยร้ายมาก แต่พอเวลามันผ่านไปนานๆ คนเราก็โตกันมากขึ้น คงคิดอะไรได้บ้างแหละ”
“ฉันคงเห็นแก่ตัวที่คิดแค่อยากให้ชาญชัยยกโทษให้ดนัย เพราะฉันอยากให้ภูมีความสุข”
“อย่าลืมสิ สริยาก็เป็นลูกคนเดียวของชาญชัยเหมือนกัน เขาจะให้ความแค้นมาบดบังความสุขของลูกอย่างนั้นหรือ ผมเชื่อว่าจากนี้ทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลง แค่เราต้องรอเวลาเท่านั้น”
“คุณเป็นที่พึ่งยามยากให้ฉันได้ทุกครั้งจริงๆคุณเอกภพ”
“ผมเป็นพระเอกใช่ไหม เอาน่าอย่าวิตกเลย ดินมันไม่เป็นไรแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณทำไม เราเป็นคู่ชีวิตกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน เราต้องแบ่งปันกันทั้งทุกข์และสุขสิ ถ้าคุณไม่สบายใจ ผมก็ไม่มีความสุขหรอกนะ”
อักษรยิ้มตื้นตันใจ สวมกอดสามีด้วยความรัก
ooooooo