ตอนที่ 14
วัชรียังคงนึกถึงเรื่องราวในอดีต ตอนนั้นเธอกับเหิมเดินจูงมือกันกะหนุงกะหนิงผ่านหน้าร้านขายเฟอร์นิเจอร์หรู เธอหยุดมองเข้าไปข้างในพึมพำว่าในนั้นเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง อยากเข้าไปอยู่ในโลกใบนั้น เขาไม่รอช้าจูงมือเธอเข้าไปในร้าน เธอดูเก้าอี้ โคมไฟราคาแพงระยับอย่างหลงใหลสักวันจะต้องมีทุกอย่างแบบนี้ให้ได้
ครั้นเดินไปเห็นเตียงนอนหรูหรา วัชรีทิ้งตัวลงนอน ขณะที่เหิมลงนอนข้างๆฝันหวานว่าเราจะมีเฟอร์นิเจอร์แพงๆพวกนี้ในบ้านที่เป็นของเรา ขณะกำลังฝันกลางวันกันอยู่ พนักงานขายเข้ามาลากวัชรีลงจากเตียง
“เฮ้ย ทำแฟนฉันทำไม บ้าเอ๊ย” เหิมผลักอกพนักงานขาย ส่วนวัชรีเอากระเป๋าไล่ตีชุลมุนไปหมด สุดท้ายทั้งคู่ถูก รปภ.ของร้านลากตัวออกมา...
วัชรีสลัดภาพในอดีตทิ้งขึ้นไปนอนบนเตียงหรูหราข้างๆเหิมซึ่งบอกให้เธอพานันทิยากลับคฤหาสน์วศวงศ์วันพรุ่งนี้เพื่อรอเปิดพินัยกรรมของภิมุข เธอไม่รู้ว่าหลานสาวจะยอมกลับไปด้วยหรือเปล่าอาจยังกลัวเรือนผีสิงนั่นอยู่ เขาปลอบว่าไม่มีผีที่ไหน เขาไปที่เรือนนั้นด้วยตัวเองก็ไม่เจออะไรนอกจากนังดาญ่า
“แต่อีกไม่กี่วัน พอเปิดพินัยกรรมแล้วมันจะถูกเฉดหัวออกไปจากบ้าน”
“วัชอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ วันที่ทุกสิ่งทุกอย่างของวศวงศ์เป็นของวัช ทั้งบ้านทั้งบริษัททั้งเงินมหาศาลในบัญชี ไม่เสียแรงที่ทนฝืนกล้ำกลืนอยู่กินกับไอ้ภิมุขมานานหลายปี มันคุ้มค่าจริงๆ” วัชรีกอดเหิมอย่างมีความสุขโดยไม่รู้เลยว่าร่างของรังสรรค์ที่ทั้งคู่เอาไปทิ้งน้ำมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปพบนอนหงายติดอยู่กับกอผักตบริมตลิ่ง
ooooooo
เช้าวันต่อมา วิจารณ์ชวนเทวัตกับดาญ่าไปถวายอาหารเพลให้หลวงพ่อที่วัด ทำบุญให้จักรินที่ล่วงลับ โดยมีฤกษ์ทำหน้าที่หิ้วตะกร้าใส่อาหารและ ดอกไม้เดินตาม หลังกรวดน้ำเสร็จ ฤกษ์นำน้ำที่กรวดแล้วมาเทใต้ต้นไม้ใหญ่
“ฉันไม่มีวันอโหสิให้แกหรอกไอ้สาม แกฆ่าน้องสาวตัวเอง ฆ่าเมียฉัน พรากลูกไปจากฉัน คนอย่างแกควรตกนรกซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีวันได้ไปผุดไปเกิดวนเวียนอยู่ในนรกเพื่อชดใช้หนี้กรรม แกอีกคนไอ้เหิม แกก็สมควรตายตามไอ้สามไป แต่...แกยังตายไม่ได้จนกว่าฉันจะได้คำตอบเรื่องลูกชายฉันจากปากของแก” ฤกษ์ตบต้นไม้แค้นใจ...