ตอนที่ 14
วัชรีฟังเรื่องราวที่เหิมเล่าจบก็สรุปได้ว่าแท้จริงแล้วเทวัตเป็นหลานของวิจารณ์มหาเศรษฐี นี่ถ้ามันรู้คงยุ่งแน่ๆ เหิมไม่มีวันให้มันรู้เพราะถ้ามันรู้นั่นหมายความว่าเขาจะต้องติดคุก
“แต่พี่อย่าลืมสิเรื่องนี้ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวที่รู้ แต่ยังมีนายสามตัวต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องนี้อีกคนที่กุมความลับเรื่องนี้ไว้ พี่จะแน่ใจได้ยังไงว่าสักวันหนึ่งนายสามจะไม่สารภาพเรื่องนี้ให้ใครฟัง”
เหิมแน่ใจเพราะจักรินหรือสามตายไปแล้วไม่มีโอกาสได้สารภาพเรื่องนี้ให้ใครฟังอีกแล้ว วัชรีตกใจจักรินเป็นอะไรอยู่ๆถึงได้ตาย เขานิ่งไม่ตอบ เธอเดาออกทันทีนี่เป็นฝีมือเขาใช่ไหม เหิมแก้ตัวว่าไม่ได้ตั้งใจก็แค่พลั้งมือเหมือนที่จักรินพลั้งมือทำน้องสาวตัวเองตาย วัชรีเป็นห่วงแล้วเรื่องคดีจะทำอย่างไร
“ไม่ต้องห่วงน่าผมเก็บกวาดทุกอย่างจนสะอาด ตอนนี้ตำรวจสรุปสาเหตุแล้วว่ามันตายเพราะอุบัติเหตุ คุณรีบพายัยนันกลับบ้านไปเถอะ รอรับมือกับนังดาญ่าดีกว่า ส่วนเรื่องไอ้เทวัตผมต้องจัดการได้แน่”
“ไม่ว่าจะมีอะไรมาขวางทาง เราสองคนพร้อมเดินหน้าดับเครื่องชนมันให้พ้นทาง” วัชรีสีหน้าแน่วแน่...
ในเวลาต่อมา วัชรีเก็บข้าวของของตัวเองเสร็จก็ไปตามนันทิยาที่ห้อง เห็นง่วนอยู่กับโทรศัพท์ถามว่าเก็บของเสร็จหรือยัง มัวแต่โทรศัพท์อยู่ได้จะได้กลับกันสักที เธอกำลังโทร.หาพี่สรรค์แต่ติดต่อไม่ได้ ท่านเห็นเขาบ้างไหม วัชรีโดนถามถึงรังสรรค์ก็เลยกลบเกลื่อนด้วยการทำเสียงเขียวใส่นันทิยาทำไมถึงถามอย่างนี้
“แล้วทำไมคุณน้าต้องทำเสียงอย่างนั้น นันแค่โทร.หาพี่สรรค์ไม่ติดก็เลยถาม”
“ถามฉันฉันจะไปรู้เหรอ พี่สรรค์ของแกมันก็ร่อนไปทั่วนั่นแหละ”
นันทิยารู้ดีว่าพี่ชายชอบร่อนไปทั่วแต่มันแปลกที่เขาปิดเครื่อง ปกติไม่เคยทำแบบนั้น วัชรีขอร้องอย่าเอาเรื่องบ้าบอคอแตกมาทำให้รำคาญใจเลย เร่งให้กลับกันได้แล้ว นันทิยาจำใจลากกระเป๋าเสื้อผ้าเดินตามผู้เป็นน้าออกจากห้องไปใส่ท้ายรถ วัชรีขอขับเองบอกให้เธอไปนั่งเบาะข้างที่นั่งคนขับ
นันทิยากำลังจะขึ้นรถเหลือบไปเห็นในโรงรถมีรถคันหนึ่งจอดโดยมีผ้าคลุมไว้ คิดว่าเหิมถอยรถคันใหม่โดยไม่รู้ว่านั่นคือรถของรังสรรค์ จัดแจงเดินไปดูยังไม่ทันจะเปิดผ้าคลุมออกดู เหิมเข้ามาคว้ามือไว้ทันเสียงเข้มใส่คิดจะทำอะไร เธอจะขอดูรถหน่อยเพิ่งซื้อใหม่หรือ เขาปฏิเสธว่าเปล่า นี่เป็นรถของเพื่อนเอามาจำนำไว้ วัชรีรีบมาดึงแขนเธอ ตำหนิว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง เร่งให้กลับคฤหาสน์วศวงศ์เพื่อเตรียมรับมือนังดาญ่าแล้วพากันขึ้นรถขับออกไป
“คงต้องเอารถไปทิ้ง รีบทำลายหลักฐาน” เหิมพึมพำกับตัวเอง...