ตอนที่ 12
ยุพราชรอพสุอยู่อย่างที่เจ้าขุนแสงเรืองคาดไว้จริงๆ แต่เขายังไม่มีโอกาสลงมือเพราะกลัวจะยิงโดนเจ้าจ้อยที่อยู่กับพสุ อีกทั้งเผ่าเทพก็ป้วนเปี้ยนอยู่ด้วย จึงได้แต่รอคอยต่อไปอย่างใจเย็น
มหาเทวีดีใจที่ได้เห็นหน้าลูกสาว สองแม่ลูกพูดคุย กันโดยมีคนอื่นๆรายล้อมและพร้อมให้กำลังใจมหาเทวีเสมอ สักพักทุกคนก็ปล่อยให้สองแม่ลูกคุยกันตามลำพัง พวกเขากลับออกมาหารือกันเรื่องอาการมหาเทวีที่หมอยังระบุไม่ได้ว่าได้รับสารพิษอะไร เจ้าหลวงบอกว่าหมอได้ แต่รักษาตามอาการประคับประคองไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะประคองไปได้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้สภาพร่างกายมหาเทวีทรุดลงเรื่อยๆ
อกานซิงห์พูดอย่างหนักใจว่า “พวกเราเองก็ไม่รู้จะปิดมหาเทวีได้อีกนานแค่ไหนเหมือนกัน มหาเทวีถามทุกวันว่าป่วยเป็นอะไร ถ้ารู้ว่าถูกสารพิษ ไม่รู้ว่าจะรับได้หรือตกใจกลัวจนอาการทรุดลงไปอีก”
พสุให้คิดในแง่ร้ายไว้ก่อนจะดีกว่าว่ามหาเทวีอาจจะตกใจจนทรุดถ้ารู้ความจริง แต่เจ้าหลวงค้านว่า
“ไม่หรอกครับ ผมรู้จักนิสัยมหาเทวีดี ถ้ารู้ว่าตัวเอง ถูกสารพิษ ไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลเฉยๆแน่ จะต้องออกจากโรงพยาบาลไปหาความจริงด้วยตัวเองว่าสารพิษนั้น มาจากไหน”
“ตอนนี้ผมหาคำตอบให้ได้แล้วครับว่าสารพิษนั้นมาจากไหน”
“หมวดรู้แล้วหรือว่าสารพิษมาจากไหน”
“คิดว่ารู้แล้วครับ ผมมั่นใจ 99 เปอร์เซ็นต์ อีก 1 เปอร์เซ็นต์เหลือไว้กันพลาด”
“งั้นรีบบอกมาเลย สารพิษพวกนั้นมาจากไหน จะได้รีบไปเอามาให้หมอหาวิธีรักษามหาเทวีได้ถูก”
“มันไม่ง่ายอย่างงั้นน่ะสิ เพราะสารพิษนั่นมาจากคนใกล้ตัวเจ้าหลวงนั่นแหละ”
“มันเป็นใคร” เจ้าหลวงถามเสียงเครียด แต่พอพสุบอกว่าเจ้าอุ่นคำ เขาก็ชะงักอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่อกานซิงห์ถามย้ำว่า
“คุณกำลังบอกว่าเจ้าอุ่นคำเป็นคนวางยามหาเทวี อย่างนั้นหรือ”
“น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ จากที่ผม เจ้าจ้อย และอ่อนคำไปสืบจากคนในคุ้มจันทราพบว่าทุกๆเช้าเจ้าอุ่นคำจะชงชามาให้มหาเทวีดื่มเป็นประจำ และในคืนก่อนเช้าวันเกิดเหตุ เจ้าอุ่นคำได้ชงชาไปให้มหาเทวีถึงที่ห้อง”
“ใช่จริงๆด้วย คืนนั้นเจ้าพี่ชงชาเอาขึ้นมาให้ถึงห้องนอน เฮาเองยังแปลกใจ” เจ้าหลวงนึกย้อนไปคืนนั้นแล้วก็โมโหตัวเอง “ถ้าชาถ้วยนั้นมียาพิษจริงๆ เฮาก็เป็นคนโง่ที่หลงกลช่วยคะยั้นคะยอให้มหาเทวีดื่มยาพิษเข้าไป”