ตอนที่ 12
ทรงวาดเห็นเธอจัดการทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่วก็อดปลื้มไม่ได้ “ลื้อเข้มแข็งกว่าที่อั๊วคิดไว้เยอะ ทั้งๆ ที่ลื้อเจอเรื่องหนักๆมามากแต่กลับคุมสติได้ดีแล้วก็ทำหน้าที่ทุกอย่างได้ไม่มีขาดตกบกพร่องเลย”
“เพราะอั๊วมีเฮียไง อั๊วอยากแบ่งเบาภาระเฮีย เล็กน้อยก็ยังดี แล้วอั๊วก็อยากทำให้แปะเป็นครั้งสุดท้าย”
“แปะเคยพูดกับอั๊วว่าการต่อสู้แย่งชิงอำนาจวาสนาเป็นเรื่องไร้ค่าไร้ความหมาย มันเป็นอย่างที่แปะพูดไว้จริงๆ”
งานศพแปะฮ้อผ่านไปหลายวัน เฮ้งเตี๋ยงรักษาตัวจนหายจึงจุดธูปไหว้ป้ายสถิตวิญญาณเม่งฮงกับลี่เง็กบอกกล่าวเรื่องล้างแค้นและกราบลาไปอยู่ต่างจังหวัดกับพริ้มเพรา
พริ้มเพราซึ้งใจมากที่ผัวล้มเลิกความตั้งใจจะก่อตั้งแก๊งหกห้องอีกครั้งและกลับไปเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับเธออย่างจริงจัง เช่นเดียวกับทิเหล็งที่ดีใจเนื้อเต้นเมื่อรู้ว่าป่วยซังมีใจ
ป่วยซังทำขนมอี๋บอกความในใจกับทิเหล็งแต่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง ร้อนถึงกิมเอ็งต้องพูดกับหลานชาย
“ขนมแบบนี้เขาทำกินกันเรื่อยๆเหรอ ขนมอี๋เป็นขนมมงคลให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวป้อนให้กันในวันแต่งงานมีความหมายให้ชีวิตรักเหนียวแน่นราบรื่นเหมือนขนมอี๋ อีบอกใบ้ลื้อขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรออาเหล็ง”
ทิเหล็งสุขใจมาก คว้าถ้วยขนมมากินจนหมด ยินดีมากจะได้เริ่มต้นชีวิตคู่กับป่วยซัง
ooooooo
ชาญยุทธยังทำใจไม่ได้ที่กลายเป็นคนพิการ อนาคตทางการเมืองดับวูบต้องรักษาตัวที่บ้านโดยไม่ยอมพบหน้าผู้คน ทรงวาดหนักใจมากและอดไม่ได้ระบายกับปิ่นมุก
“พี่อ้ายยังไม่ยอมให้ใครเยี่ยมเลยแม้แต่พี่เอื้อย เรื่องคราวนี้คงสะเทือนใจพี่อ้ายมากจริงๆ”
“จู่ๆก็ต้องกลายเป็นคนพิการ เป็นใครก็ต้องสะเทือนใจทั้งนั้นแหละเฮีย”
“ลื้อคงไม่ว่าอะไรนะถ้าอั๊วจะขอติดต่อหรือไปพบกับพี่อ้ายบ้าง”
“อั๊วจะไปว่าอะไรล่ะ พี่ชายเฮียไม่ไปหาสิแปลก”
“ถ้าอย่างนั้นอั๊วก็หมดห่วงไปเรื่อง...ยังเหลืออีกเรื่อง...เมื่อไหร่ลื้อจะเรียนจบ”