ตอนที่ 12
นอกจากทรงวาด ปิ่นมุกก็ติดสอยห้อยตามเถ้าแก่หนุ่มมาด้วยเพื่อดูอาการให้ชาญยุทธ
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ต้องการพบคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของฉัน ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ”
ปิ่นมุกไม่ถือสา โต้อย่างใจเย็น “รู้เรื่องค่ะ...แต่วันนี้ฉันมาทำหน้าที่ของหมอนะคะ เฮียบอกว่าคุณเบี้ยวนัดหมอมาหลายครั้งแล้ว ฉันก็เลยต้องมาตรวจคุณด้วยตัวเอง”
ความจริงใจของปิ่นมุกทำให้ชาญยุทธใจอ่อนยอมให้เธอมาหาพร้อมทรงวาด เถ้าแก่หนุ่มปลื้มใจที่เธออดทนและยอมละทิฐิเพื่อคนที่เขารัก และเขาก็เชื่อว่าอีกไม่นานชาญยุทธจะทำใจได้...
ปิ่นมุกกลายเป็นคุณหมอเต็มตัว ได้ทำตามตั้งใจคือเปิดคลินิกในตึกหกห้องรักษาคนจน ป่วยซังกับทิเหล็งตกลงใจใช้ชีวิตด้วยกันจนทั้งสองกำลังจะมีลูก ทรงวาดเป็นหัวหน้าพ่อครัวร้านข้าวต้มและเป็นเถ้าแก่หนุ่มคนดังของเยาวราชเหมือนเดิม เขากับปิ่นมุกช่วยกันจัดงานฉลองที่ศาลเจ้า...สถานที่ที่เขากับเธอพบกันครั้งแรก
ภาพในอดีตผุดในหัวทั้งสอง ปิ่นมุกคิดถึงเวลาที่ต้องเป็นกำพร้าเร่ร่อนในศาลเจ้ากระทั่งทรงวาดรับไปอุปการะ ส่วนทรงวาดก็คิดถึงคำสอนของแปะฮ้อที่เตือนให้เขาอดทนต่ออุปสรรคต่างๆ
“แปะฮ้อเคยสอนอั๊ว...คำว่าอดทนประกอบด้วยอักษรสองคำ...คือคำว่าตอกับคำว่าซิม ตอคือมีดที่ปักบนซิมหรือหัวใจ...มีดปักกลางใจมันเป็นความทรมานที่เราต้องผ่านมันไป นั่นคือความหมายของคำว่าอดทน”
“แปะฮ้อจากเราไปแล้วแต่คำสอนของแปะยังอยู่กับเราเสมอนะเฮีย”
“แต่ยังมีอยู่ข้อนึงที่แปะฮ้อไม่รู้...อั๊วอดทนผ่านทุกอย่างมาได้ก็เพราะอั๊วมีลื้ออยู่ข้างๆ”
ปิ่นมุกยิ้มหน้าแดง ทรงวาดจับมือเธอแล้วกระซิบข้างหู “รักอั๊ว อยู่กับอั๊วตลอดไปนะอาจู”
“ไม่รู้สิ...ขอคิดดูก่อน”
ทรงวาดเอ็นดูท่าทางกระเง้ากระงอดของเธอ แกล้งเย้า “อั๊วต้องรีบส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอซะแล้วเดี๋ยวลื้อเปลี่ยนใจ นี่อั๊วจะไปสู่ขอลื้อได้จากใครล่ะ ญาติผู้ใหญ่ลื้อก็มีอั๊วคนเดียว ยังไงอั๊วก็ต้องยกให้อยู่แล้ว”
“ร้ายนักนะเฮีย”
“ทางสะดวกขนาดนี้อั๊วว่าที่จริงข้ามขั้นตอนไปส่งตัวเข้าหอเลยก็ได้นะ...ประหยัดดี”
ปิ่นมุกเขินจัดหยิกเขาเต็มแรงแต่ทรงวาดไม่ถือสาดึงตัวมากอด...ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึงจริงๆสักที
ooooooo
–อวสาน–