ตอนที่ 2
“มันไม่ง่ายอย่างนั้น ชุมโจรเสือผันยิ่งกว่าเมืองลับแล ชาวบ้านชาวป่าที่อาศัยแถบนั้นยังไม่เคยเห็นทางเข้ารังของมัน ลือกันว่ามันลงคาถาบังตาไว้”
“นี่มันศตวรรษสองพันห้าร้อยแล้วนะครับท่าน ความเชื่อเรื่องไสยดำคร่ำครึเหลือเกิน”
“ผู้กองไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เหนืออื่นใดต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพราะเรื่องคอมมิวนิสต์จัดเป็นปัญหาใหม่ของประเทศ เมื่อสามปีก่อนทางฝ่ายสันติบาลถึงต้องเพิ่มหน่วยสืบสวนพิเศษเรื่องคอมมิวนิสต์ขึ้นโดยเฉพาะ”
“ผมพอทราบนโยบายเรื่องนี้แต่มันเกี่ยวยังไงกับพวกโจรกลุ่มนี้ครับ”
“ผู้ใหญ่ในกรมกับคณะรัฐบาลเห็นพ้องต้องกันว่าพวกนักเลง อันธพาลหรือซ่องโจรพวกนี้อาจเป็นคอมมิวนิสต์หรือเชื่อมโยงกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่แทรกซึมในป่า ดังนั้นการปราบปรามกวาดล้างต้องทำแบบถอนรากถอนโคน!”
สมยศมุ่งมั่นเรื่องปราบปรามโจรมาก เผ่าเทพทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับภารกิจร่วมกันโดยดี
รสมืออาหารฝีมือเพชรน้ำผึ้งทำให้ภูผาพูดไม่ออก ได้แต่ทิ้งไว้ให้คนทำกินเอง ส่วนตัวเองคว้าห่อข้าวที่เหลือมากินอย่างเอร็ดอร่อย หม่อมหลวงสาวหน้าจ๋อย สีหน้าน่าสงสารจนเขาใจอ่อนแบ่งให้กินด้วย
เพชรน้ำผึ้งตาเป็นประกายเมื่อได้ชิมรสชาติข้าวเหนียวเนื้อเค็มในห่อ ลงมือกินอย่างเร่งรีบด้วยความหิวโหยจนภูผาต้องร้องห้ามเพราะกลัวติดคอ หม่อมหลวงสาวไม่สนตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่ชายตามองอาหารฝีมือตัวเองแม้แต่น้อย เสือหนุ่มเจ้าของฉายาโรบินฮู้ดอดไม่ได้แกล้งแขวะ
“แค่หุงข้าวทำกับข้าวง่ายๆยังทำไม่เป็นแล้วจะอยู่รอดในป่าได้ไง”
“พี่ก็พาฉันกลับไปส่งวังสิ”
“ลืมไปว่าเป็นเจ้าหญิงหลงวัง ฉันไม่ใช่เจ้าชายในนิทานที่จะขี่ม้าขาวพาเธอกลับไปส่งวัง”
ภูผาไม่พูดอะไรอีกหลังจากนั้น ก้มหน้าก้มตาจัดการมื้อเย็นง่ายๆของตัวเองแล้วพาว่าที่เมียไปดูห้องพักที่เตรียมไว้ เพชรน้ำผึ้งกวาดตามองบรรยากาศในห้องเก็บของเล็กๆด้วยแววตาหวาดระแวง พลันสายตาก็สะดุดที่หีบเก็บของเก่าๆมุมห้อง ภูผามองตามแล้วลอบยิ้มแกล้งพูดท้าทายให้เธอเปิดดู
เพชรน้ำผึ้งทนความอยากรู้ไม่ไหวงัดหีบเก่าๆ เปิดดูข้างใน เบิกตาโพลงส่งเสียงกรี๊ดลั่นเมื่อเห็นว่าไม่มีปืนอย่างที่คิดแต่เป็นคลังหนังสือเก่าขนาดย่อม
เสียงกรีดร้องของว่าที่เมียทำให้ภูผาที่กำลังสวดคาถาบูชาเครื่องรางของขลังในห้องสะดุ้ง เสือหนุ่มถอนใจยาวก่อนคว้าเบี้ยแก้จากหิ้ง ของขวัญต่างหน้าชิ้นสุดท้ายจากครูลอยที่ให้เขาไว้ก่อนตายเพื่อป้องกันตัวจากคุณไสยและมนตร์ดำ ทำให้เขารอดพ้นจากคาถาของเสือผันจนบัดนี้