ตอนที่ 13
เพชรน้ำผึ้งลังเล แต่พอเห็นรุ่งที่โดนยิงไหล่เลือดไหลมาก และก้องที่หนีไปก็อาจโดนตำรวจตามล่าและวิสามัญเอาได้ จึงขอร้องเผ่าเทพอย่าทำร้ายใครอีกเลย อย่าต้องให้มีใครตายเพราะเธอ
“งั้นน้ำผึ้งก็ต้องยอมกลับไปหาคุณชายคุณหญิงพร้อมกับพี่ ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องเจ็บตัวต่อไปก็อาจจะเป็นคุณหมอ”
“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ สงสารไอ้ผามัน ถ้าคุณถูกพาตัวไปมันต้องหัวใจสลายแน่ ดีไม่ดีจากที่เคยตั้งความหวังว่าจะเริ่มต้นชีวิต อาจจะล้มเลิกหันไปเป็นโจรตลอดชีวิตก็ได้ เพราะมันรักคุณ อยากใช้ชีวิตบั้นปลายกับคุณ”
เพชรน้ำผึ้งคิดหนักก่อนจะตัดสินใจแตะปืนในมือหมอธันว์ให้ลดลง
“ชาตินี้น้ำผึ้งอาจจะทำบุญร่วมกับพี่ผามาได้แค่นี้ค่ะคุณหมอ” พูดจบเดินไปหาเผ่าเทพ จ่าเศกรีบเข้าล็อกตัวหมอและแย่งปืนมาทันที “รับปากน้ำผึ้งนะคะพี่เทพ ห้ามทำอะไรหมอกับรุ่งเด็ดขาด”
“พี่รับปาก”
เพชรน้ำผึ้งตัดใจยุติเรื่องราว ยอมกลับไปพร้อมเผ่าเทพทั้งที่เจ็บปวดเสียใจ...ตัวเองอาจไม่ได้เจอภูผาอีกแล้ว
ooooooo
ภูผาอาการดีขึ้นหลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่ ส่วนชาวชุมโจรที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกับพวกกำนันชัชก็ได้ลำเจียกกับพิกุลช่วยทำแผลให้
นอกนั้นยังมีอีกบางส่วนที่ปลอดภัย ซึ่งบัดนี้ทุกคนกลับมารวมตัวและขอร้องภูผาให้ขึ้นเป็นหัวหน้าชุมโจรภูพยัคฆ์คนใหม่แทนเสือผันที่อาการยังน่าเป็นห่วง แต่ภูผาตอบเลี่ยงว่า
“ฉันเข้าใจทุกคนหลังจากที่ผ่านความเป็นความตายกันมา แต่รอให้เสือผันรู้สึกตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้พวกเราควรป้องกันหมู่บ้านไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกเป็นอย่างแรก”
ทุกคนไม่ทันจะพูดอะไร เสียงก้องลูกน้องคนสนิทของภูผาวิ่งตะโกนมาแต่ไกล “พี่ผา...แย่แล้วพี่ แย่แล้ว”
ก้องมาส่งข่าวเพชรน้ำผึ้ง ภูผาร้อนใจมากรีบคว้าอาวุธหลายอย่างเพื่อตามไปเอาตัวเพชรน้ำผึ้งกลับมา โดยมีก้องขอร่วมเป็นร่วมตายไปด้วย
เวลานั้นเผ่าเทพพาเพชรน้ำผึ้งมาพบพ่อแม่ของเธอแล้ว และเธอก็ยืนยันกับพวกท่านว่าเสือผาไม่ได้โหดร้าย เขาดูแลเธออย่างดี
“นี่ลูกถูกมันล้างสมองไปแล้วใช่มั้ย มันพูดอะไรกับลูก ลูกถึงไปเชื่อว่ามันเป็นคนดี”
“ไม่มีใครล้างสมองลูกได้ทั้งนั้นค่ะคุณพ่อ ลูกพูดจากสิ่งที่ลูกเห็นและได้สัมผัส เสือผาเป็นโจรมีคุณธรรม ไม่ใช่โจรอย่างที่ทุกคนคิด”
“น้ำผึ้ง! เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของพ่อ ไอ้โจรนั่นมันทำอะไรลูก ลูกถึงออกตัวปกป้องมันขนาดนี้”
“คุณพ่อคะ จะให้น้ำผึ้งพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ที่ลูกต้องปกป้องเขา เพราะเขา...เขาเป็นสามีของลูก”
“ว่าไงนะน้ำผึ้ง ไม่จริงใช่มั้ย”
“น้ำผึ้งกราบขอโทษคุณแม่ค่ะ แต่น้ำผึ้งต้องบอกความจริงด้วยตัวเอง ดีกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ยินจากปากคนอื่น”
พ่อกับแม่ได้ฟังแทบทรุด คุณชายพิสุทธิ์ธาดาทนไม่ไหวพูดโพล่งว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว พ่อจะพาลูกกลับพระนครเดี๋ยวนี้ ขณะที่คุณหญิงอรพินธ์รำไพ
ก็เอาแต่ร่ำไห้เสียใจเพราะลูกสาวยืนกรานว่ายังกลับไม่ได้