ตอนที่ 13
“แล้วหมวดพสุหายไปไหน เฮาใจคอไม่ดีเลย”
“เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวพสุนะครับ พสุมันเก่ง มันเอาตัวรอดมาได้หลายครั้งแล้ว ครั้งนี้มันก็ต้องรอดมาได้เหมือนกันครับ”
เจ้าจ้อยพยักหน้า แต่ใจก็ยังไม่วายกังวลอยู่ดี
ooooooo
สองแม่ลูกกลับมาที่เรือนตัวเองด้วยความสะใจที่เห็นพวกเจ้าจ้อยนั่งไม่ติดหลังจากรู้ว่าพสุหายตัวไป
“ลูกอยากเห็นหน้าพวกมันนัก ตอนที่พวกมันเจอไอ้พสุ แต่มันเป็นศพไปแล้ว”
“สมน้ำหน้ามัน อยากมาแส่เรื่องของเราสอง
แม่ลูกดีนัก ตายโหงไปก็ดีแล้ว”
“แต่ลูกกำลังคิดว่าต่อให้ไอ้พสุตายจริง เราจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันยังไม่ได้บอกใครเรื่องยาถอนพิษที่รู้จากนังป่อจา”
“จริงของลูก”
“ถ้าท่านแม่อยากให้มหาเทวีตาย ท่านแม่ต้องเก็บยาถอนพิษให้ปลอดภัยที่สุด”
เจ้าอุ่นคำเห็นด้วย จากนั้นก็จัดแจงป้องกันด้วยการโรยผงสีเหลืองลงไปในถุงกำมะหยี่ที่เก็บขวดยาถอนพิษก่อนจะเอาใส่หีบไว้อย่างเดิม “ใครมายุ่งกับของของกู มึงต้องตาย!!”
ขณะนั้นค่ำแล้วแต่ยังไม่มีใครเห็นป่อจาสักคน รู้แค่ว่าเมื่อตอนกลางวันออกไปตลาด ครั้นลุมพูเข้าไปดูเจ้าจ้อยที่จ่อแตบอกว่าไม่ยอมกินอะไรเลย แล้วรู้ว่า
พสุหายไป ลุมพูแปลกใจถึงกับบ่นอุบว่าทำไมวันนี้มีแต่คนหาย
“เจ้าหมายความว่ายังไง”
“นังป่อจาผู้ช่วยแม่ครัวก็หายตัวไปตั้งแต่กลางวันเจ้าค่า แม่ครัวแกโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ คิดว่ามันอู้งาน...อุ๊ย ข้าเฮาพูดมากไปแล้ว ข้าเฮาขอเก็บสำรับอาหารกลับไปก่อนนะเจ้าค่า”
เจ้าจ้อยไม่เอะใจเรื่องป่อจา มัวแต่กังวลว่าเมื่อไหร่พสุจะกลับมา...แล้วตกดึกคืนนั้นเอง เจ้าอุ่นคำกับเจ้าขุนแสงเรืองก็ช่วยกันแบกร่างป่อจาออกมาฝังในสวนสมุนไพร ส่วนพสุปิดบังหน้าเข้ามาหลังจากสองแม่ลูกเสร็จสิ้นภารกิจชั่วได้สักพัก เขาไม่ได้สงสัยเพราะรีบเข้าไปที่ห้องปรุงยาค้นหายาถอนพิษตามที่ป่อจาบอกไว้ โดยใช้กุญแจผีเปิดหีบและพบสิ่งที่ต้องการจริงๆ
แต่พอเขาเปิดถุงก็ต้องผงะกับผงสีเหลืองที่
ฟุ้งกระจายเข้าหน้า มันคือยาพิษที่เจ้าอุ่นคำตั้งใจจัดการกับหัวขโมยที่แอบเข้ามา พสุโดนเข้าไปเต็มๆ
ถึงกับล้มโครมขวดยาถอนพิษกลิ้งหล่นไป เจ้าอุ่นคำยังไม่นอนได้ยินเสียงจึงรีบปลุกเจ้าขุนแสงเรือง
บอกว่ามีผู้บุกรุกที่ห้องปรุงยา
พสุเริ่มหายใจติดขัด ตาพร่า แต่ยังพยายามสะบัดหัวไล่อาการมึนงง บอกตัวเองว่าต้องเอายาถอนพิษออกไปจากที่นี่ให้ได้ เขาหยิบขวดยากำไว้แล้ว
เดินโซเซออกมาที่ประตูเจอสองแม่ลูกเข้าอย่างจัง
“ไอ้หัวขโมย!! ถ้ากูฆ่ามึงตาย กูก็ไม่ผิด เพราะมึงบุกรุกเรือนของกู”