ตอนที่ 11
ขณะนั้นที่โรงพยาบาล มหาเทวีกำลังถูกย้ายจากห้องฉุกเฉินไปห้องผู้ป่วย โดยมีกลุ่มเจ้าหลวงก้าวตามพลางตกลงนัดแนะพูดเรื่องอาการของมหาเทวีให้เหมือนกัน ว่าท่านตรากตรำมากระหว่างที่รอนแรมในป่าเลยทำให้เส้นประสาทตึงเครียดจนล้มป่วย
เมื่อมหาเทวีได้ห้องตามต้องการแล้ว เจ้าหลวงให้พสุพาเจ้าจ้อยกลับคุ้ม เขาจะอยู่เฝ้ามหาเทวีเอง แต่พสุขอไปหารือกับเผ่าเทพเรื่องกระชากหน้ากากคนวางยามหาเทวีก่อน เจ้าจ้อยกระตือรือร้นเพราะอยากรู้ว่าใครกันที่ทำกับเจ้าแม่ของตนอย่างเลือดเย็นขนาดนี้
เผ่าเทพตั้งข้อสังเกตว่าทุกคนในคุ้มน่าสงสัยหมด ดังนั้นห้ามบอกใครเด็ดขาดเรื่องเรารู้แล้วว่ามหาเทวีถูกวางยาพิษ และต้องช่วยกันจับตาดูว่ามีใครที่มีพิรุธบ้าง ไม่เว้นแม้แต่คนเก่าแก่ภายในคุ้ม แล้วเราค่อยจำกัดวงให้แคบลงเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย
“เข้าใจแล้ว พวกเราจะคอยจับตาดูทุกคนแล้วหาหลักฐานให้ได้”
“น่าเสียดายที่ฉันเข้าไปสืบในคุ้มไม่ได้ แต่ฉันจะคอยประสานงานอยู่ข้างนอกให้”
“ไม่ต้องห่วง พวกเราจัดการได้ ใช่ไหมครับ”
เจ้าจ้อยรับปากจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเจ้าแม่ ส่วนอ่อนคำพูดแข็งขันว่าตนจะช่วยด้วย
“ดีครับ อย่าลืมนะครับ ตอนนี้คนร้ายอยู่ในที่มืด เรายังไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใคร ทุกคนต้องระวังตัวให้มากที่สุด เพราะถ้าพวกมันรู้ตัว นั่นหมายความถึงชีวิตของพวกคุณทุกคน”
พสุกุมมือเจ้าจ้อยไว้ ถามด้วยความเป็นห่วง “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมดีกว่าไหมครับ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะหมวด เฮาเข้มแข็งพอ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะ”
พสุกับเจ้าจ้อยยิ้มให้กัน ต่างให้กำลังใจกัน
ooooooo
เมื่อกลับถึงคุ้มในบ่ายนั้น อ่อนคำพยายามสังเกตทุกคนเพื่อจับพิรุธ แต่ไม่ว่าจะนางกำนัลหรือทหารก็ไม่มีใครน่าสงสัยสักคน ขณะที่พสุกับเจ้าจ้อยก็ช่วยกันสำรวจตามห้องต่างๆอย่างละเอียด เพราะสารพิษที่มหาเทวีได้รับอาจจะมาจากการกิน สัมผัส หรือสูดดม
ในระหว่างที่ช่วยกันสำรวจอยู่นั้น เจ้าอุ่นคำมาเห็นแล้วสงสัย ถามทั้งคู่ว่าหาอะไร พสุหัวไวโกหกว่าเจ้าจ้อยทำสร้อยหล่นหายเลยช่วยกันหา
เจ้าอุ่นคำไม่เชื่อแต่ไม่ซักไซ้ พูดกับเจ้าจ้อยว่าป้าแค่จะมาถามว่ามหาเทวีเป็นอย่างไรบ้าง
“เจ้าแม่ถึงมือหมอแล้วก็ดีขึ้น หมอบอกว่าเส้นประสาทตึงเครียด ก็เลยให้นอนพักที่โรงพยาบาลสักวันสองวัน เดี๋ยวคงดีขึ้น”
“แต่ที่ป้าเห็นเมื่อเช้า มหาเทวีอาการไม่ดีเลยนะหลาน”
“จริงเจ้าค่า แต่พอหมอให้น้ำเกลือกับยา อาการก็ดีขึ้นแล้ว”
“ไม่มีอาการปวดหัว เวียนหัว มือไม้สั่น อยากจะอาเจียนเลยหรือ”