ตอนที่ 11
ทรงวาดตัดสินใจเด็ดขาดจะไม่ทิ้งทุกคนที่ร้านข้าวต้มไปเดินเส้นทางมาเฟียอีก ต่างจากเฮ้งเตี๋ยงที่คิดเรื่องล้างแค้นให้พ่อตลอดเวลา พริ้มเพราสังเกตอาการผัวตลอดกระทั่งจับได้คาหนังคาเขาว่าเขาซ่อนปืนไว้
“พี่เอาปืนมาทำไม จะกลับไปเป็นนักเลงฆ่าคนอีกอย่างนั้นเหรอ”
เฮ้งเตี๋ยงเฉไฉกลบเกลื่อน “ลื้อคิดมากไปแล้วพริ้มเพรา อั๊วก็แค่หาปืนไว้ใช้ป้องกันตัวเท่านั้นเอง บ้านเราที่บ้านนอกมันเปลี่ยวจะตายไปมีติดบ้านเอาไว้ไม่เสียหลายหรอก”
“ฉันไม่เชื่อ! พี่อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ใจพี่นะ พี่อยากกลับไปเป็นนักเลง ใจพี่คิดแต่เรื่องแก้แค้นตลอดเวลา”
“ไม่จริง...อั๊วสัญญาแล้วไงว่าอั๊วจะไม่ทำอีก ลื้อต้องเชื่อใจอั๊วสิ”
พริ้มเพราไม่เชื่อตัดพ้อน้ำตาคลอ “พี่รู้ไหมว่าสามปีที่พี่ติดคุกฉันทรมานใจแค่ไหน ฉันคิดถึงพี่ทุกวัน เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่พี่จะออกมา แต่พอพี่กลับมาได้แล้วพี่ก็คิดจะทิ้งฉันไปอีกอย่างนั้นเหรอ”
เฮ้งเตี๋ยงสะเทือนใจสุดท้ายก็ยอมกลับต่างจังหวัดกับพริ้มเพราท่ามกลางความโล่งใจของทุกคน...
งานศพวิสูตรถูกจัดอย่างเรียบง่ายและเงียบเหงา ชาญยุทธเสียใจและรู้สึกผิดมากแต่ไม่กล้าออกหน้าออกตาหรือแม้แต่รับเป็นเจ้าภาพงานศพเพราะกลัวถูกสาวถึงตัวเรื่องคดีลอบยิงพันเดช กระนั้นก็อดไม่ได้จะแอบไปร่วมงาน ทรงวาดเห็นเข้าก็อดไม่ได้จะเตือนสติพี่ชายบุญธรรม
“จริงๆพี่อ้ายไม่ควรมาที่นี่นะครับ พวกมันอาจจะใช้ศพวิสูตรล่อพี่มาทำร้ายก็ได้”
“ต่อให้ตายพี่ก็ต้องมา เพราะถ้าพี่ไม่กดดันวิสูตรเขาก็ไม่ต้องลงมือแล้วก็คงไม่ต้องตาย แถมตายแล้วพี่ยังปล่อยให้เขาเป็นศพไร้ญาติเพื่อไม่ให้พวกมันฉวยโอกาสเล่นงานพี่อีก พี่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเลวเท่านี้มาก่อนเลย”
ทรงวาดถอนใจยาว “มันผ่านไปแล้วครับพี่อ้าย เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็แค่ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดแล้วก็อย่าทำผิดพลาดซ้ำอีกเท่านั้นเอง”
“พี่คนเดียวทำไม่ได้หรอกเสือ นอกเสียจากเสือจะยอมช่วยพี่”
“มันเป็นไปไม่ได้แล้วครับพี่อ้าย ผมไม่ได้อยากเดินทางนี้ตั้งแต่แรก เมื่อคุณพ่อตายแล้วและผมก็ชดใช้บุญคุณให้พี่แล้วผมก็ขอเลือกทางเดินของผมเองครับ”
“ถ้าเป็นไปไม่ได้แล้วเสือมาที่นี่ทำไม เสือมาไหว้ศพวิสูตรก็เพราะยังผูกพันกับพี่อยู่ใช่ไหมล่ะ”