ตอนที่ 14
หลังจากนั้นหลวงสรศักดิ์ถามผู้เป็นพ่อว่าขุนหลวงอาจเห็นดีเห็นงามกับเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ให้พระปีย์ครองราชย์ จักนิ่งเฉยอยู่หรือ พระเพทราชากล่าวอย่างจริงจัง
“พ่อเดื่อ ถ้าพ่อจะทำสิ่งใดอย่างที่เจ้าคิดว่าพ่อควรจะทำนั้น พ่อขอให้เจ้ารู้ไว้ว่าพ่อมิใช่มักใหญ่ใฝ่สูงอันใด แต่เพราะมีเหตุอันจำเป็นต่อความพินาศฉิบหายของบ้านเมืองเรา”...
เมื่อเสร็จสิ้นงานศพออกญาโหราธิบดี จมื่นศรีได้มาร่วมงานแล้วจะกลับ จ้อยซึ่งแต่เดิมรับใช้จมื่นศรีมาก่อนที่ท่านจะโดนเนรเทศไปอยู่เมืองนคร ขอติดตามไปด้วยเพราะเห็นว่าพระศรีวิสารสุนทรมีเรือนแล้ว แต่จมื่นศรีขอให้จ้อยอยู่ดูแลทุกคนที่เรือน เห็นว่าส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง
จากนั้นจมื่นศรีมากราบลาคุณหญิงจำปา “ลูกต้องกลับไปทำหน้าที่สำคัญของลูกตามรับสั่งของขุนหลวงนารายณ์เหนือหัวของลูก”
“หน้าที่นั้นฤาเจ้า เนรเทศเจ้าไปไกลถึง...” คุณหญิงจำปาร้าวรานใจไม่รู้อีกนานแค่ไหน
“อีกไม่นานดอกลูกจักพ้นโทษเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้ เหตุเพราะเจ้าพระยานครก็เอ็นดูลูกอยู่มากนัก เพราะลูกก็เป็นคนโปรดของท่านนะขอรับ...ลูกจักกลับมาดูแลคุณแม่”
คุณหญิงจำปาน้ำตาไหลพรากด้วยมีลางสังหรณ์ว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกอีกตามดวงชะตา...
วันเวลาผ่านไป เกศสุรางค์ตั้งครรภ์ พระศรีวิสารสุนทรดูแลเอาใจใส่อย่างรักใคร่ เพียรถามถึงอาการวิงเวียนมิขาดปาก หญิงสาวบอกไม่เวียนหัวแล้วแต่อึดอัดที่ตัวเองเริ่มอ้วน
“อ้วนอันใดกัน เจ้ามีครรภ์จึงมีน้ำมีนวล กำลังงามต่างหากเล่า...แม้ออเจ้าจักเป็นโอ่งเดินได้ ออเจ้าก็เป็นเมียข้า”
“แหม...โอ่งเดินได้เชียวหรือเจ้าคะ” เกศสุรางค์นึกถึงรูปร่างจริงของตัวเองที่อวบอ้วน
“สิ่งที่อยู่ภายในต่างหากเล่าที่ผูกมัดใจข้าได้ หาใช่ภายนอกไม่ มิเช่นนั้นเมื่อคราที่ออเจ้าเป็นแม่การะเกดคนเก่า ข้าคงรักนางไปเนิ่นนานแล้วหนา ต่อให้ออเจ้าผิดแผกไปจนขี้ริ้วกว่านี้ อวบอ้วนพีจนโอบมิรอบ ในความรู้สึกของข้าแล้ว ออเจ้าก็คือแม่การะเกดของข้าเพียงเท่านั้น”
เกศสุรางค์โอบกอดเขาอย่างสุขล้น พระศรีวิสาสุนทรรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เป็นฝ่ายโดนกอดเพราะยังไม่เคยชิน
ooooooo