ตอนที่ 14
ตกดึกเมื่อบ่าวสาวถูกส่งตัวเข้าหอ เกศสุรางค์ปลดเครื่องประดับออกวางจนหมด พระศรีวิสารสุนทรถามชอบเครื่องทองเครื่องเพชรเหล่านี้ไหม เธอบอกไม่ชอบอย่างยิ่ง เขาจึงส่งสังวาลทับทิมเส้นที่ขาดแล้วร้อยใหม่ให้ หญิงสาวดีใจมาก โผกอดคอเขาพร้อมกล่าวขอบคุณ พระศรีวิสารสุนทรกระซิบข้างหู นัยน์ตาวิบวับ
“เคยละเล่นโล้สำเภาฤาไม่”
“เรือเหรอคะ ข้าเคยเห็นค่ะ แต่ไม่เคยขึ้นเรือสำเภาซักที”
“กระนั้นฤา...มาเถิดพี่จักสอนให้” พระศรีวิสารสุนทรเห็นนางจะถามก็ประกบปากจูบอย่างนุ่มนวล
เกศสุรางค์กอดตอบอย่างละมุนละไม ทั้งสองล้มตัวลงนอนคลอเคลียมีความสุข
ooooooo
รุ่งเช้าเกศสุรางค์กระซิบข้างหูปลุกพระศรีวิสารสุนทร เขาลืมตาและหลับลงอีกเพราะท่าทางนางจะมีคำถาม แต่พอเธอหอมแก้มเขาเสียงดัง พระศรี-วิสารสุนทรลืมตาลุกนั่งต่อว่าทันที
“เจ้าจูบพี่ก่อนอีกแล้ว...วันก่อนเจ้าก็จูบพี่ก่อน แล้ววันนี้ยัง...”
“เอ้า ทำไมจูบก่อนไม่ได้คะ”
“เจ้าเป็นแม่หญิงนะ เหตุใดเจ้าถึงทำสิ่งที่แม่หญิงทั่วไปไม่ทำ”
“อ้อ เข้าใจแล้ว แหม...ผู้หญิงฝรั่งเศสไม่จูบก่อนหรือคะ”
“ข้าไม่รู้...ข้าจะรู้ได้ยังไร”
เกศสุรางค์ล้อว่าเขาต้องเคยจูบกับหญิงฝรั่งเศส ถึงรู้ว่าหญิงฝรั่งเศสจูบผู้ชายก่อน พระศรีวิสารสุนทรลุกพรวดเดินหนีไปยืนริมหน้าต่าง ปฏิเสธว่าไม่เคย แค่เคยเห็น เธอยังล้ออีกว่าเขาแอบดู พระศรีวิสารสุนทรเสียงเข้มว่าตนไม่หยาบคายอย่างนั้น หญิงสาวจะล้อต่อ แต่โดนเขารวบตัวมาจูบอย่างดูดดื่มจนอ่อนระทวยทรุดนั่งมองสามีนัยน์ตาวิบวับ เขากำชับว่าอย่าถามเช่นนี้อีก
“จะทำไมเหรอคะ”
“จะโดนอย่างที่โดน”
“อ๋อ เขินใช่ไหมเอ่ย” เกศสุรางค์มองนัยน์ตาท้าทาย พระศรีวิสารสุนทรก้าวเข้าหา เธอหลบวิ่งหนีหัวเราะร่า เสียงหัวเราะดังลอดออกไปนอกห้อง
คุณหญิงจำปากำลังคุมปริกกับจวงจัดสำรับให้ออกญาโหราธิบดี ต่างชะงักทำหน้าไม่ถูก คุณหญิงจำปาจะไปปราม ออกญาโหราธิบดีแตะมือห้าม
“คุณพี่...หากมิห้ามก็จักทำอีก เพราะแม่การะเกดชักนำเป็นแน่ หัวเราะหัวใคร่ดังจนได้ยินทั้งเรือน มิงามเลย เกลือกว่าผู้ใดได้ยิน”
ออกญาโหราธิบดีให้คุณหญิงจำปาหันไปมองว่าพวกบ่าวมีสีหน้าอมยิ้มเป็นสุขถ้วนทั่ว
“จริงเจ้าค่ะ ในเรือนเราจักเป็นยังไรไปเจ้าคะ เหมือนดั่งที่แม่นายอนุญาตให้ทัดดอกไม้นั่นแหละเจ้าค่ะ ถึงผิดธรรมเนียมแต่เราหาต้องถือเคร่งไม่ในเรือนของเรา”
“เจ้าค่ะ...คุณแม่ปริก” คุณหญิงจำปาประชดปริกที่จีบปากจีบคอพูด...บ่าวคนอื่นๆหัวเราะครืน
ooooooo
กลุ่มทูตฝรั่งเศสกลับบ้านเมืองไปแล้ว พระเพท-ราชาแปลกใจที่ทูตลาลูแบร์ยังอยู่และคอยสอดส่องมีล่ามคนไทยคอยแปลแล้วจดลงสมุด เห็นคนมีรอยสักก็ซักถามแล้วจด ไม่ทันไรล่ามไทยเข้ามาบอกพระเพทราชาว่า ทูตลาลูแบร์ขอตามไปดูจับช้างพลายเถื่อนด้วยเพื่อเป็นความรู้
พระเพทราชาเดินหนี หลวงสรศักดิ์เดินตาม ข้าราชการคนอื่นๆพากันเดินหนีและมองทูตลาลูแบร์อย่างเหยียดๆ...กลับถึงเรือน พระเพทราชาสะใจที่ไม่มีใครพูดคุยกับทูตลาลูแบร์ แต่ยังสงสัยว่าทูตคนนี้คอยสอดแนมเรื่องราวของอยุธยาทำไม หลวงสรศักดิ์เห็นว่าควรระวัง