ตอนที่ 14
ระหว่างนั้น ผินกับแย้มกลับมาบอกพระศรีวิสาร-สุนทรซึ่งรออยู่ที่เรือนพักละโว้ เขาตกใจรีบตามไปที่บ้านเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ มาถึงต้นไม้ใหญ่ เหมือนถูกมือหนึ่งดึงเข้าไปหลังต้นไม้พร้อมเสียงหอบถี่ๆ ร่างเกศสุรางค์ปรากฏขึ้น ถามเขามาได้อย่างไร พระศรีวิสารสุนทรเสียงกร้าว
“ทำกระไรลงไป รู้ตัวฤาไม่” พระศรีวิสารสุนทรชักกริชออกมาจ่อคอตัวเอง เกศสุรางค์ตกใจคิดว่าเขาจะทำร้าย รีบโอดโอยว่าผิดไปแล้ว แต่พอเห็นเขาจ่อคอตัวเองก็ละล่ำละลักถามจะทำอะไร สีหน้าเขาเจ็บปวดดวงตาแดงก่ำ ให้นางสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก ว่าแล้วก็กดกริชลงที่คอตัวเองจนเลือดซึม เกศสุรางค์ตกใจร้องลั่น
“สัญญา! ข้าสัญญา ข้าไม่มีวันทำอีกเด็ดขาด ข้าจะไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงอีก วางกริชเถิดเจ้าค่ะ เลือดออกแล้วหนา”
“เจ้ารู้ฤาไม่ว่าแรกที่ได้ยินว่าออเจ้าแฝงกายตามทหารฝรั่งไป ข้าแทบขาดใจตายลงเดี๋ยวนั้น รู้ฤาไม่ว่าหากพลาดพลั้งย่อมถึงแก่ชีวิต”
เกศสุรางค์ดึงกริชจากมือเขาโยนทิ้งแล้วเอาผ้าที่ชายพกมาซับเลือดให้ พระศรีวิสารสุนทรกล่าวอย่างร้าวรานใจ
“ออเจ้ากล้าหาญชาญชัยยิ่งกว่าชาย กระทำในสิ่งที่แม่หญิงอื่นมิมีวันกระทำ ผู้ใดห้ามปรามก็มิเคยฟัง เสงี่ยมหงิมได้เพียงชั่วครู่ก็สร้างเรื่องราว ลืมแล้วฤาว่าในอยุธยานี้ออเจ้าเป็นคนที่มีเพียงชีวิตเดียว แลบัดนี้ชีวิตของออเจ้าก็พ่วงชีวิตของผู้อื่นไว้ หากออเจ้าเป็นกระไรไปข้าก็มิขออยู่เป็นผู้เป็นคน ให้ข้าตายก่อนเสียยังดีกว่า”
เกศสุรางคร้องไห้น้ำตาไหลพราก ขออภัยจะไม่ทำอีก พระศรีวิสารสุนทรดึงนางเข้ามากอดแนบอก หญิงสาวดูแผลที่คอเขาแล้วถามว่ายังเจ็บอยู่ไหม เขากระซิบตอบว่าไกลหัวใจ เธอสัมผัสบาดแผลของเขาด้วยริมฝีปากอย่างแผ่วเบา แค่นั้นพระศรีวิสารสุนทรก็สะท้านไปทั้งตัว พรมจูบขมับเรื่อยลงมาถึงแก้มขาวนวล เกศสุรางค์จูบที่ปลายคางก่อนจะใช้นิ้วแตะริมฝีปากเขาเบาๆ
“ออเจ้า...รู้จักวิธีจูบแบบฝรั่งเศส...”
หญิงสาวพยักหน้าแล้วหลับตารอการจุมพิต พระศรีวิสารสุนทรบรรจงจูบปากเธออย่างอ่อนโยนนุ่มนวล มือโอบกอดกระชับร่างด้วยความรัก เธอสะดุ้งสุดตัวเพราะมีรอยช้ำที่สะบักหลัง เขาเลื่อนสไบเห็นรอยช้ำคล้ายโดนกระสุนก็ตกใจ แต่เธอกลับบ่นพึมพำไปคนละเรื่อง
“เกือบมีฉากไคลแมกซ์กลางป่าแล้วไหมล่ะ ไม่รู้ว่าจะโล่งอกหรือเสียดายดี”
“ข้าถามยังทำหน้าทะเล้น ตอบข้ามาถูกยิงฤา รอยช้ำนี่”
“เจ้าค่ะ นายพลเดส์ฟาร์จแม่นชะมัด แรงลูกปืนทำเอาข้าเซไม่เป็นท่า ดีที่ข้ากัดปากไว้ไม่ร้อง ไม่งั้นพวกนั้นคงเห็นไปแล้ว แต่ก็แปลกที่ลูกปืนไม่ยักจักเข้าเนื้อข้า”
พระศรีวิสารสุนทรสำรวจว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนอีก แล้วพบว่าด้ายแปดฟั่นที่ข้อมือหายไป จึงดุเสียงเข้ม
“เห็นหรือยังว่าทำอะไรลงไป ถ้าไม่ได้ด้ายของอาจารย์คงตายไปแล้ว วิชาอำพรางตนใช้เอาตัวรอด มิใช่เอาไปเสี่ยงอย่างนั้น หากออเจ้ามิออกมาก่อนที่ข้าจักมาถึงผลที่เกิดคงเลวร้ายกว่านี้เป็นแม่นมั่น เพราะข้าคงมิอยู่เฉยเพียงนอกกำแพง ต้องบุกไปตายกับเจ้าเป็นแน่”
“ข้าสัญญาจะไม่ทำอีก ไม่ยอมเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงอีกแล้วเจ้าค่ะ เชื่อข้านะเจ้าคะ”