ตอนที่ 14
สองวันถัดมาอัสดมหงุดหงิดที่โดนเรียกประชุมจากผู้ถือหุ้นกะทันหัน โสภาเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรทั้งที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ พอเข้ามาในห้องประชุม กำลังจะต่อว่าก็ต้องชะงักหน้าซีดเมื่อเห็นคนที่นั่ง
หัวโต๊ะคือปรีชาพ่อของชลิตา...ปรีชาจ้องหน้าอัสดมด้วยสายตาไม่พอใจมาก
“พ่อบินด่วนจากเมกา เพราะข่าวไม่ดีทางเมืองไทย อัสเลี่ยงภาษี!”
อัสดมโวยพวกผู้ถือหุ้นว่าใครเป็นคนโทร.ไปฟ้อง ปรีชาปรามแล้วบอกให้รู้ว่าเป็นอดีตพนักงานที่นี่ อัสดมหันมองโสภา เธอส่ายหน้าไม่รู้ ปรีชาลุกขึ้นเสียงเข้มอย่างมีอำนาจ
“ที่ประชุมเพิ่งลงมติไล่อัสออก! หุ้น 30% ที่อัสถือไว้ พ่อจะซื้อคืน”
อัสดมอึ้งไปพักใหญ่ พอตั้งสติได้ก็ค้านเสียงแข็ง “ผมไม่คืนครับ! คุณพ่อสร้างบริษัทมาก็จริง แต่ผมเป็นคนต่อยอดให้บริษัทเติบโต ผมมีสิทธิ์ในบริษัท!”
“ก็ได้! เก็บหุ้นไว้ก็ได้ แต่อัสไม่มีอำนาจบริหาร พ่อในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ พ่อจะคุมบริษัทเอง! ใครเห็นด้วยยกมือ” ทั้งห้องยกมือ อัสดมหน้าเสีย ไม่สามารถทัดทานเสียงข้างมากได้
โสภาโทร.ตามชลิตามาที่บริษัท ปรีชากำลังนั่งอ่านเอกสารเพื่อสะสางงาน อัสดมปล่อยให้ภรรยาเข้าไปคุยกับพ่อลำพัง เธอเข้าไปกอดต่อว่าจะมาทำไมไม่ให้ไปรับ ปรีชาบอกลูกสาวสุดที่รักว่ามาพักโรงแรม ไม่อยากนอนบ้านอัสดม...ชลิตารู้จุดอ่อนพ่อว่ารักตนมาก จึงอ้อนว่า
“คุณพ่อไม่รักตาแล้วเหรอ ทำกับสามีตาก็เหมือนทำกับตา เรียกประชุมยกเลิกมตินะคะ”
“พ่อยอมตาทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องนี้” ปรีชาใจแข็ง
จังหวะนั้นเสียงไลน์เข้ามาที่โทรศัพท์อัสดมซึ่งยืนอยู่ตรงประตู ชลิตาหันไปเอ็ดให้ปิดไลน์เสีย อัสดมกำลังจะกดปิด เห็นข้อความที่รสลินส่งมาข่มขู่ก็แทบช็อก ชลิตาเห็นสีหน้าสามีจึงถามว่าใครส่งไลน์มา จะเข้าไปดึงมาดูเอง อัสดมถอยหนีหน้าตายังตื่นตระหนก แล้วหันหลังรีบร้อนเดินไป ชลิตางงเป็นไก่ตาแตกที่เขาทำแบบนี้ทั้งที่เรื่องที่กำลังจัดการอยู่เป็นเรื่องของเขา
ชลิตาซักถามโสภา เธอเองก็ไม่รู้เรื่อง ปรีชาสีหน้าไม่พอใจนั่งสะสางงานต่อ สักพักก็ปิดแฟ้มงานแล้วบอกให้ลูกสาวพาไปธุระที่แห่งหนึ่ง ชลิตาแปลกใจว่าพ่อนัดใครไว้
ในขณะที่อัสดมมาคอนโดฯรสลินราวพายุ สีหน้าโมโหสุดขีด ตวาดให้เธอลบคลิป รสลินยิ้มยั่วว่าได้ส่งข้อความไปบอกแล้วว่าแลกกับเงินสิบล้าน หนุ่มใหญ่กราดเกรี้ยวใส่
“รสลิน! คุณนี่มันเลวสุดๆ แอบถ่ายตอนมีอะไรกัน แบล็กเมล์ผม”
“คุณชอบด่ารสโง่ ตอนนี้ใครกันแน่ที่โง่!”