ตอนที่ 11
โสภาเอาเรื่องสาทินีมาเล่าให้ชลิตาฟัง เธอสะใจมากที่สาทินีโดนทั้งตบ ลงคลิปประจาน แล้วยังโดนอัสดมทิ้ง โสภาเยาะว่าเอาเรื่องบนเตียงมาแฉ เป็นใครใครก็ทิ้ง น่าสงสารเจ้านาย แต่ชลิตากลับบอกว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนตนจะปลอบ แต่ตอนนี้สมน้ำหน้า
เสียงรถอัสดมกลับมา โสภาจะรีบออกไปรับหน้า แต่แล้วต้องชะงัก เพราะเห็นอัสดมกำลังกันไม่ให้ถวิกาเข้ามา ชลิตาโกรธมากเดินออกมาเอาเรื่อง ถวิกาเห็นเดินท้าทายเข้าไปหา
“ดีจริง เสนอหน้าออกมาเอง ไม่ต้องเคาะชามเรียก”
“ถวิกา! ฉันขอเปิดประเด็นก่อนนะ อาทิตย์หน้าฉันจะจ้างคนมาสูบส้วม ฉันจะให้เขาเอาตะแกรงมากรองหาอัฐิพี่เธอ เผื่อว่าจะเจอเศษกระดูกซักชิ้นสองชิ้น”
ถวิกาจ้องชลิตาอย่างแค้นสุดๆ แล้วหันไปพูดกับอัสดม “คุณบากหน้าไปขอโทษฉัน ฉันให้อภัยคุณก็ได้ โดยอยู่บนเงื่อนไข คุณต้องหย่ากับชลิตา”
อัสดมหน้าเจื่อนเพราะถูกขอต่อหน้าภรรยา ชลิตาก้าวมายืนเผชิญหน้าถวิกา “เธอคิดว่าการเป็นภรรยาคาสโนว่ามันง่ายเหรอ ไม่สตรองจริง ฉันไม่ยืนหยัดมาถึงป่านนี้หรอก”
“เธอยังไม่เคยเจอผู้หญิงที่สตรองกว่า” ถวิกาพูดอย่างท้าทาย ชลิตาไม่หวั่นเหยียดว่าไม่มีวันชนะตน
ถวิกาสวนว่าตนต้องชนะเธอ สองสาวต่างมั่นใจพอกัน
ด้านสาทินีหิ้วถุงกับข้าวกลับเข้าบ้าน เห็นน้องชายสอนการบ้านลูก ก็เปรยว่าอัสดมทิ้งตนแล้ว รัชดาตกใจเล็กน้อย สาทินีรำพันว่าตนรู้สึกเคว้งคว้าง เหมือนชีวิตไม่มีจุดหมาย รัชดาจึงปลอบว่าอย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับใคร แต่สาทินีก็พูดต่อราวคนไร้สติว่า จุดหมายเดียวในชีวิตตนคืออัสดม เขาทิ้งตนแต่ตนไม่ได้ทิ้งเขา ตนจะเอาเขาคืนมา ไม่สนคำเตือนของน้องชาย
ในคืนนั้นชลิตาโทร.คุยกับป้าที่อเมริกา อัสดมเข้ามากอดประจบ พอเธอวางสาย เขาก็บอกเธอว่าเขาเลิกกับสาทินีแล้ว ขอกลับมานอนที่ห้องตามเดิม ชลิตาปฏิเสธอย่างเยือกเย็น แล้วพูดกับเขาเหมือนไม่ได้ขอความเห็นแค่ให้รับรู้เท่านั้น
“อัสจำน้องพีท ลูกชายพี่สาวตาที่เสียเมื่อปีก่อนได้ไหม”
“จำได้สิ น่าสงสารนะ กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่แบเบาะ”
“ตาจะรับน้องพีทเป็นลูกบุญธรรม”
อัสดมอึ้งเล็กน้อยแล้วพยายามตะล่อมไม่ให้รับ เราควรทำกิฟต์จนกว่าจะได้ลูกของตัวเอง แต่ชลิตาไม่ยอมทำกิฟต์อีก เธอต้องช้ำใจมามากพอแล้ว จึงยื่นคำขาด
“อัสเลือกเอา จะเซ็นรับบุตรบุญธรรม หรือเซ็นใบหย่า!”
“เรื่องหย่าไม่เคยอยู่ในหัวผม”
“เดือนหน้าป้านีจะพาน้องพีทมาเมืองไทย อัสเตรียมตัวเป็นพ่อนะคะ ส่วนตาจะได้เป็นแม่ บทบาทหน้าที่ที่ฝันอยากเป็นมานาน”
ooooooo