ตอนที่ 1
ปกรณ์บอกว่าเริ่มจะเห็นเป็นภาพ แต่ยังไม่ต่อเนื่องและไม่ชัดเจนเพราะจิตของตนยังไม่สงบและนิ่งพอ อิงอรถามว่า “คืนนี้พอก่อนดีไหม”
“ไม่ได้ เวลามีไม่มาก เธอไปนอนก่อนเถอะ พี่จะพักสักครู่แล้วจะลองนั่งสมาธิดูอีกที”
“ก็ได้จ้ะ” อิงอรลุกเดินออกไป
ปกรณ์หันกลับจึงเห็นหน้าซีกขวาที่มีรอยแผลเป็นน่ากลัวตั้งแต่แก้มไปจนถึงคอ แววตาเขาสงบนิ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ร้านเสียงสังคีตของยชญ์ซึ่งเป็นร้านค่อนข้างใหญ่ อ่ำกำลังปัดฝุ่นตามชั้นที่วางเครื่อง ดนตรี มีทั้งเครื่องดีดสีตีเป่า แต่ที่มีมากที่สุดคือ
ซอสามสายและระนาดเอก ยชญ์ตรวจบัญชีอยู่ที่โต๊ะพูดขึ้นว่า
“ช่วงนี้ผมคงยุ่งมากอาจไม่ได้เขาร้านเลย เพราะต้องไปช่วยพี่โฉมคุมการซ้อมดนตรีที่มหาวิทยาลัย”
อ่ำบอกไม่เป็นไรตนกับธวัชช่วยกันได้
“เรื่องการขายผมไม่ห่วงเพราะธวัชรู้งานมากแล้ว เรื่องบัญชีในร้านผมคงต้องจ้างผู้ช่วยแล้วครับ”
ยชญ์ใช้คอมฯพิมพ์ประกาศรับสมัครผู้ช่วยผู้จัดการร้าน มีเงื่อนไขวุฒิการศึกษา อายุ และถ้ามีความรู้ด้านดนตรีไทยจะพิจารณาพิเศษ พิมพ์และปรินต์เสร็จก็ให้อ่ำเอาไปติดที่หน้าร้าน
แต่อ่ำไม่ทันได้เอาไปติดเสียงกระดิ่งทองเหลืองหน้าร้านก็ดังขึ้น ทั้งสองเห็นอิงอรเดินเข้ามา ยชญ์นึกว่าเป็นลูกค้าทักและเชิญชมเครื่องดนตรีในร้าน อิงอรบอกว่าตนไม่ได้มาดูเครื่องดนตรีแต่จะมาสมัครงาน
ยชญ์แปลกใจถามว่ารู้ได้ยังไงว่าตนกำลังต้องการพนักงานอยู่พอดี อิงอรดีใจถามว่าจริงหรือ พอดีตนชอบเล่นดนตรีไทยและพอเล่นเป็นบางอย่าง ผ่านมาเห็นร้านก็เลยเข้ามาถามดู
ขณะนั้นเองมีหญิงวัยกลางคนเข้ามาถามว่าที่นี่มีซอสามสายหลีบหรือเปล่า อิงอรตอบอย่างอ่อนน้อมว่ามีแล้วเชิญไปดูอีกด้านหนึ่ง อิงอรยกซอสามสายหลีบมาให้ดูและอธิบายคล่องแคล่วอย่างรู้จริง จนหญิงคนนั้นตกลงซื้อ อิงอรถือซอสามสายหลีบ เดินนำลูกค้ามาหา
ยชญ์ บอกว่าลูกค้าตกลงเอาซอคันนี้
ยชญ์มองอิงอรทึ่ง บอกว่า “ถ้าผมไม่รับคุณไว้ก็คงโง่เต็มที”
“ขอบคุณมากค่ะคุณยชญ์” อิงอรไหว้ขอบคุณ ยชญ์ชะงักถามว่ารู้จักชื่อตนด้วยหรือ “เมื่อครู่นี้ดิฉันได้ยินคุณลุงแกเรียกชื่อคุณน่ะค่ะ” อิงอรมองไปทางอ่ำ ยชญ์ยังงงแต่ก็พอเข้าใจได้
พอดีโฉมยงค์โทรศัพท์เข้ามา ยชญ์รีบรับสาย ฟังแล้วบอกว่า “ได้ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” แล้วเรียก...คุณ...อิงอรบอกว่าตนชื่ออิงอร แต่เรียกสั้นๆว่า “อร” ก็ได้
ยชญ์รับอิงอรเข้าทำงานทันที อิงอรดีใจมากที่ได้งานและยชญ์ก็พอใจที่ได้ผู้ช่วยที่รู้งาน
ooooooo
ยชญ์รีบไปที่ห้องซ้อมดนตรีไทยที่มหาวิทยาลัย พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นโฉมยงค์กำลังคุยกับเม แพร มิ่งและนักศึกษาคนอื่นๆอยู่ ท่าทางเครียดทุกคน ยชญ์ถามโฉมยงค์ว่ามีเรื่องด่วนอะไรหรือ?
โฉมยงค์เล่าว่าเมื่อเช้าด็อกเตอร์พิบูลเรียกตนไปพบบอกให้เปลี่ยนโจทย์เพลงที่จะใช้ในการประกวด เพราะตามโจทย์ที่แจ้งในรอบชิงจะต้องใช้เพลงบุหลันของครูทัต แต่ตอนนี้คณะกรรมการขอเปลี่ยนโจทย์จากเพลงบุหลันเป็นเพลงแขกมอญ ตนกังวล ถามด็อกเตอร์ว่าทำไมเป็นแบบนี้ ด็อกเตอร์บอกว่าตนก็ไม่รู้ เขาแจ้งมาตนก็แจ้งต่อ อ้างว่า