ตอนที่ 1
“อย่างเธอน่ะผีไม่หลอกหรอก แม้แต่คนยังไม่กล้าทำอะไรเลย มีหน้าตาเป็นอาวุธซะขนาดนั้น”
ยชญ์พูดขำๆ เมทำท่าจะเอาเรื่อง โฉมยงค์บอกให้ใจเย็นๆ ยชญ์แค่พูดเล่น เมเลยเงียบทั้งที่แค้น โฉมยงค์มองทั้งสองขำๆที่คอยแต่จะฮึ่มฮั่มใส่กันเหมือนขมิ้นกับปูน
ooooooo
พอลงจากรถ โฉมยงค์กับยชญ์จะเดินเข้าบ้าน เมลงมาฉุนๆ พอหันหลังก็สะดุ้งโหยงร้อง “เฮ้ย!” เมื่อเจออ่ำยืนรออยู่เงียบๆ โฉมยงค์จึงบอกเมว่าตาอ่ำเป็นคนเก่าแก่ของที่นี่
เมไหว้สวัสดี ขอโทษหน้าเจื่อนๆ บอกว่าไม่นึกว่าคุณตาจะมายืนอยู่เงียบๆอย่างนี้ อ่ำหัวเราะ พูดให้เห็นเป็นเรื่องขำว่าหน้าตาผิวพรรณคนแก่อยู่ในที่มืดมองเผินๆก็นึกว่าผี แล้วรายงานยชญ์เรื่องอิงอรว่า
“คุณยศไม่ต้องห่วงเลยครับ เธอขยันขันแข็งเอางานเอาการดีมาก ตอนผมกลับ บอกให้ปิดร้านได้เลย เธอยังว่าจะขอเปิดต่ออีกหน่อย เย็นๆคนกลับจากทำงานอาจมาแวะดูของอีกที จะได้ไม่เสียลูกค้า”
โฉมยงค์ถามว่าพนักงานใหม่หรือ
“ครับ สุภาพเรียบร้อย สมเป็นผู้หญิง ขยันขันแข็งดีเสียด้วย ผมโชคดีมากเลยที่ได้เธอมาทำงานที่ร้าน”
อ่ำนึกได้บอกว่าตนให้กุญแจสำรองเปิดประตูร้านอิงอรไว้ชุดหนึ่ง เธอว่าเธอน่าจะมาเช้ากว่าตนเพราะอยู่คอนโดซอยหลังร้านเรานี่เอง ยชญ์บอกว่าตนรู้แล้ว บอกอ่ำให้ไปพักเสีย แล้วชวนโฉมยงค์กับเมเข้าบ้านกัน
ที่ร้านเสียงสังคีต อิงอรอยู่กับธวัชจนหกโมงเย็นก็บอกให้ธวัชกลับไปก่อนเดี๋ยวรถติด ธวัชบอกว่าตนขี่มอเตอร์ไซค์มาไม่กลัวรถติด ชวนว่าจะติดรถตนกลับก็ได้จะได้ไม่ต้องเบียดขึ้นรถเมล์
อิงอรขอบใจ แต่ตนพักอยู่คอนโดซอยหลังร้านนี่เองเดินไปสะดวกกว่า บอกธวัชให้กลับได้เลย ธวัชบอกว่าตนกลับไปหอก็เล่นเกม อาบน้ำ นอน อยู่ เป็นเพื่อนพี่ดีกว่า มืดๆค่ำๆอยู่ร้านคนเดียวไม่ปลอดภัย เพราะมืดๆบางทีก็มีพวกติดยาผ่านมา ยชญ์ถึงให้ปิดร้านประมาณห้าโมงเย็น
อิงอรฟังแล้วบอกว่างั้นเราปิดร้านกันเลยดีกว่า ดูเงียบๆคงไม่มีลูกค้าแล้ว
ธวัชจึงลุกไปปิดร้าน อิงอรเดินไปก็แอบถอนใจอย่างผิดหวัง...
ooooooo
จำเนียรเดินนำรื่นถือแก้วน้ำมาวางให้ทุกคนครบแล้วจะออกไป โฉมยงค์รีบยกมือไหว้ทักว่าไม่เจอกันนานแข็งแรงดีใช่ไหม เมรีบไหว้ตาม จำเนียรรับไหว้มองเมแล้วถามโฉมยงค์ว่าลูกศิษย์หรือ หน้าตาจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู
ยชญ์บอกจำเนียรว่าเดี๋ยวจะพาพี่โฉมขึ้นไปหาโน้ตเพลงที่ห้องเก็บของให้ช่วยไขกุญแจเปิดห้อง ให้ด้วย จำเนียรรับคำแต่ให้ทานข้าวเย็นก่อนดีไหมตนเตรียมไว้ให้แล้ว ยชญ์ว่าดีเพราะต้องใช้เวลาหานาน จำเนียรบอกขอเวลาตั้งโต๊ะครู่เดียว เมขอไปช่วย จำเนียรยิ้มเอ็นดูบอกว่าดีจะได้เสร็จเร็วขึ้น
พอจำเนียรกับเมเดินออกไป โฉมยงค์พูดยิ้มๆว่าเมน่ารักจะตาย เข้าได้กับทุกคน แต่แปลกทำไมถึงชอบออกฤทธิ์แต่กับยชญ์ ยชญ์บอกว่าพี่โฉมคงต้องถามลูกศิษย์ตัวเองดูเพราะตนก็ไม่รู้
“ลองคิดดูดีๆสิจ๊ะว่ายชญ์เคยไปทำอะไรให้เมโกรธหรือเปล่า” โฉมยงค์สะกิด ยชญ์จึงนิ่งคิดทบทวน...
เย็นวันหนึ่งที่ห้องซ้อมดนตรี เมนุ่งโจงกระเบนปีนบันไดเหล็กขึ้นไปยืนคร่อมบันไดขยับหลอดไฟที่กะพริบๆทำท่าจะดับขยับจนหายกะพริบ ยชญ์ในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาเห็นก็ส่ายหน้าอ่อนใจเรียกเสียงดัง
“เมญากร!”