พรหมพิศวาส
ตอนที่ 15
ปานตะวันทำตาที่แม่แนะ ชวนปพลไปคุยกันตามลำพัง เมื่อได้อยู่กันสองต่อสองปพลถามเธอว่าตะวันเป็นลูกของเขาใช่ไหม เธอน้อยใจสุดๆที่เขากลับมาที่นี่ เพราะอยากรู้ว่าตะวันเป็นลูกของเขาแค่นั้นหรือ
“ใช่...อีกอย่างผม...” ปพลยังไม่ทันบอกว่าเขาคิดถึงเธอด้วย เธอก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“งั้นคุณก็รู้แล้วก็กลับไปซะ ตะวันไม่ใช่ลูกของคุณ”
ปพลไม่เชื่อ เพราะตะวันเป็นคนบอกเองว่าเขาเป็นพ่อของแก ปานตะวันอ้างว่าคำพูดของเด็กเชื่อถืออะไรไม่ได้ ปพลไม่สนใจว่าเธอจะพูดอย่างไรแต่เขาเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะหากวันนี้ลูกของเรายังมีชีวิตอยู่แกก็คงมีอายุพอๆกับตะวัน แล้วขอร้องให้เธอบอกความจริงกับเขามา
ปานตะวันโกหกว่าลูกของเขาตายไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว เธอแต่งงานใหม่ มีลูกแล้วแฟนของเธอก็ตาย ปพลไม่เชื่อท้าให้พิสูจน์ดีเอ็นเอ เธอได้แต่นิ่ง
“หรือคุณกลัวว่าผลจะออกมาว่าตะวันเป็นลูกผมจริงๆ”
“ฉันไม่กลัว”
“งั้นก็ไป แล้วถ้าผลออกมาตะวันไม่ใช่ลูกผม ผมพร้อมจะออกจากชีวิตคุณอย่างที่คุณต้องการ”
“ก็ได้ เพราะยังไงผลที่ออกมาคุณก็ไม่ใช่พ่อของแก”
ooooooo
ปานตะวันนัดปพลไปตรวจดีเอ็นเอวันรุ่งขึ้น โดยมีอานนท์กับปัทมาเป็นสักขีพยาน การตรวจต้องใช้เวลาประมาณสิบวัน ปานตะวันบอกอย่างมั่นใจว่าไม่ต้องรอถึงขนาดนั้น เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ใช่พ่อของตะวัน
“ตะวันกลับบ้านกันลูก” ปานตะวันจูงมือตะวันจะกลับ ปพลขอไปด้วย เธอไม่ให้ไป ไล่ตะเพิดเขาไปให้พ้น ตะวันขอร้องแม่ยอมให้คุณลุงปพลไปกับเราด้วยแกจะได้มีเพื่อนเล่น
“ตะวันก็เล่นกับแม่ เล่นกับป้าสวย เล่นกับยายจัน น้าปัทก็ได้”
“ตะวันอยากเล่นเตะบอล อยากเล่นต่อสู้ ที่บ้านมีแต่ผู้หญิง ไม่มีใครเล่นกับตะวัน”
“งั้นก็เล่นกับลุงนนท์” ปานตะวันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “คุณนนท์ว่างไหมคะ”
คนถูกถามอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ปัทมารู้งานรีบแต่งเรื่องว่าวันนี้อานนท์มีประชุมตอนบ่ายหรือเขาจะให้เลื่อนไปก่อนจะได้ไปเล่นเป็นเพื่อนตะวัน อานนท์ขอโทษปานตะวันด้วยที่ไปไม่ได้
“งั้นเราไปกันไหมคะคุณนนท์ คุณสากับทีมคงรอแล้ว”
อานนท์พยักหน้ารับรู้ ก่อนเดินออกไปกับปัทมา ครั้นกลับถึงบริษัท ปัทมาอดบ่นกับอานนท์ไม่ได้ว่าพี่ปานคิดจะทำอะไรกันแน่ ดูท่าทางมั่นใจว่าคุณปพลไม่ใช่พ่อของตะวัน แล้วถามความเห็นจากเขา อานนท์มัวแต่ใจลอยไม่ได้ฟังที่เธอพูด เธอต้องตะโกนเรียกเขาเสียงดัง เขาสะดุ้งโหยงโวยใส่ทำไมต้องเสียงดังอยู่กันแค่นี้เอง
“ก็ฉันคุยกับคุณคุณก็เงียบเป็นอะไรหรือเปล่า”
เขาปฏิเสธว่าเปล่า เธอไม่เชื่อที่เขาใจลอยก็เพราะเขากลัวว่าพี่ปานจะคืนดีกับคุณปพลใช่ไหม จริงๆถ้าเขาไม่ได้อยากให้ทั้งคู่คืนดีกัน ก็ไม่เห็นต้องทำตัวเป็นพ่อพระสนับสนุนคุณปพล เขาไม่ใช่ออปป้าในซีรีส์เกาหลีสักหน่อยที่ต้องทำตัวอบอุ่นน่าสงสารขนาดนั้น
“คุณเคยสังเกตพี่สาวคุณหรือเปล่า เขามีความสุขไหมเวลาที่อยู่กับผม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมเทียวไปเทียวมาดูแลเขา ผมไม่เคยเห็นคุณปานยิ้มได้เต็มหัวใจสักครั้ง” อานนท์เล่าเพิ่มเติมว่าไม่ใช่ปานตะวันเท่านั้นที่ไม่มีความสุขตะวันเองก็ไม่มีความสุขไปด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเห็นแกนั่งซึมอยู่คนเดียว จึงเดินเข้าไปหา
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“วันนี้เพื่อนถามตะวันว่าพ่อตะวันอยู่ไหน ตะวันบอกว่าพ่ออยู่บนสวรรค์ เพื่อนบอกว่าคนที่อยู่บนสวรรค์คือคนที่ตายแล้ว พ่อตะวันตายแล้วจริงๆ เหรอครับลุงนนท์”
