นางทิพย์

ภาธรไม่ได้แวะไปบ้านคุณหลวงไพรัชผู้เป็นพ่อทั้งที่ไม่ได้กลับเมืองไทยมาเกือบยี่สิบปี แต่หิ้วกระเป๋าไปอยู่บ้านเรือนไทยของแม่เมียคนแรกของคุณหลวง ขณะกำลังลากกระเป๋าเดินทางเข้าบ้านมีลมกระโชกเข้ามา ทุกอย่างรอบตัวปลิวว่อน เขาคว้ากล้องถ่ายรูปดิจิทัลรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาถ่ายภาพรั้วบ้านไว้ทุกมุม

ครั้นเข้าไปในตัวบ้านภาธรโหลดภาพที่ถ่ายไว้ขึ้นมาดู พบว่ากล้องจับภาพเงาสีดำไว้ได้ คล้ายวิญญาณที่วนเวียนอยู่เหนือประตูรั้ว เขาเดินไปดูที่หน้าต่างเห็นเงาสีดำพุ่งหายไปในอากาศ มองอย่างสนใจ...

ขณะมีเงาประหลาดพาดผ่านรั้วบ้านภาธร ที่หนองน้ำของหมู่บ้านหนองพรายปรากฏร่างผีผู้หญิงในชุดสไบสมัยอยุธยากำลังหมอบอยู่กับพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้น

เสียงนั้นโหยหวนชวนขนหัวลุก

“ออกญา มืดเหลือเกินเรามองไม่เห็นท่าน...ท่านอยู่หนใดช่วยเราด้วย เรากลัว หนาวเหลือเกิน”

อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก ชายโฉดสามคนกำลังลากหญิงสาววัย 16 ปี ถูลู่ถูกังมาตามทางมุ่งสู่โคกร้างกระทั่งถึงต้นไม้ใหญ่ พวกมันจับหญิงสาวเหวี่ยงไปไว้ข้างใต้แล้วถอดกางเกงตัวเองออกหวังจะทำมิดีมิร้าย

ผีเจ้าฟ้าทิพฉายนึกถึงตอนที่ตัวเองถูกทหารอังวะลากเข้าป่าก็โกรธตาแดงก่ำขึ้นอย่างน่ากลัว พวกชายโฉดเห็นเข้า

ถึงกับตะลึง แสงสีดำพุ่งขึ้นจากพื้นดินเป็นสายราวกับ

ผีร้ายผุดขึ้นมาจากอเวจีรายล้อมเธอไว้

พวกชั่วเห็นท่าไม่ดีจะวิ่งหนี ถูกลำแสงสีดำกรูกันรัดร่าง ลากไปยังหนองน้ำที่มืดมิด ทั้งสามคนแหกปากร้องให้คนช่วยแต่ไม่มีใครได้ยิน หนึ่งในพวกนั้นคว้าขาหญิงสาวหวังจะใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ผีเจ้าฟ้าใช้อิทธิฤทธิ์ตัดมือขาด เขาถึงกับร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เหล่าวิญญาณสีดำต่างจัดการกับพวกนั้นอย่างโหดเหี้ยม

“จงไป...ไปสู่ความตายให้สมกับความชั่วช้าของพวกเจ้า”

หลังฆ่าพวกชายโฉดตายหมกหนองน้ำ แสงสีดำลอยกลับมาวนรอบร่างผีเจ้าฟ้าทิพฉาย สักพักหญิงสาวที่ถูกฉุดฟื้นคืนสติ เห็นสภาพเสื้อผ้าขาดวิ่นของตัวก็ตกใจ ลุกขึ้นวิ่งหนี ลมที่พัดกระโชกเมื่อครู่สงบลง ร่างชายโฉดที่ถูกสังหารลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ผีเจ้าฟ้าทิพฉายที่เกรี้ยวกราดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อย

“ออกญาเมื่อใดท่านจักมารับเรา อย่าทิ้งเราไว้เช่นนี้ ออกญาพิชิตแสนพลมารับเราเถิด” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายคร่ำครวญทั้งน้ำตาซึ่งไหลออกเป็นเลือด

ooooooo

ให้บังเอิญเหลือเกิน ภาธรมารับจ๊อบเป็นอาจารย์สอนพิเศษวิชาปรัชญาที่มหาวิทยาลัยเดียวกับที่ปริตตาเรียน แถมเธอลงเรียนวิชานี้ด้วยโดยไม่รู้ว่าเขาคืออาภาธรของทินเทพ

วันนี้ภาธรมาสอนเป็นวันแรก เล่าให้นักศึกษาฟังถึงสิ่งที่คนเราเรียกว่าผีหรือวิญญาณนั้น ทางวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นสั้น เทียบได้ก็คล้ายๆกับมือถือ ทุกวันนี้ที่เราเห็นผีกันมากขึ้นคงเป็นเพราะมีการถ่ายเทคลื่นแม่เหล็กจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แถมเขายังโยงเรื่องผีไปเกี่ยวกับอวกาศ กาแล็กซีและจักรวาลอีกด้วย นักศึกษาฟังไม่รู้เรื่อง พากันนั่งหาวบ้างก็นั่งหลับไปเลย