ตอนที่ 1
หลังจาก ดร.โอนีลกลับไปแล้ว ภาธรรวบรวมข้อมูลหมู่บ้านหนองพรายที่ได้พิมพ์ลงในโน้ตบุ๊กส่วนภาพถ่ายก็สแกนเก็บไว้ในไฟล์เช่นกัน...
การได้อ่านแฟ้มข้อมูลของ ดร.โอนีลทำให้ภาธรรู้ประวัติคร่าวๆ ว่าหมู่บ้านหนองพรายมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภาพถ่ายจากในแฟ้มเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณรางเลือน ลักษณะคล้ายผู้หญิงผมยาวสยาย ค้อมตัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านน่ากลัวเหมือนเงื้อมือปิศาจ ภาธรขยายภาพที่สแกนลงในโน้ตบุ๊กเพื่อดูให้ชัดๆ พลันมีแสงสีแดงวาบจากดวงตาของหญิงในภาพพุ่งเข้าตาเขาถึงกับผงะ
“ตาพร่าได้อย่างไร” ภาธรบีบแถวหัวตาเพื่อเรียกสติ
เกิดลมพัดแรงขึ้น ม่านปลิวไสว ทันใดนั้นไฟดับพึ่บ ภาธรไม่ได้ตื่นเต้นตกใจออกจะรำคาญด้วยซ้ำ คว้าไฟฉายมานั่งอ่านข้อมูลต่อไปไม่ยอมเสียเวลา อ่านจนหลับคาตา
ผีเจ้าฟ้าทิพฉายใช้ฤทธิ์เดชบันดาลให้ออกญาพิชิตแสนพลหรือภาธรในชาตินี้ย้อนกลับไปในอดีตก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก 3 ปี ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เจ้าฟ้า
ทิพฉายได้เจอกับออกญาพิชิตแสนพล เธอปลอมตัวเป็นหญิงชาวบ้านมีฐานะออกไปเดินเที่ยวตลาดกับนิ่มนางสนมคนสนิทและนางข้าหลวงสองคน แล้วถูกวิ่งราวกำไลทองคำ เขาตามไปจับตัวขโมยไว้ได้ นางข้าหลวงรีบวิ่งไปคว้ากำไลทองคืน
เจ้าฟ้าทิพฉายซึ่งมีผ้าปิดหน้า ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล หัวขโมยยกมือไหว้ออกญาพิชิตแสนพลปลกๆ อ้างลูกไม่สบายต้องการเงินไปซื้อยา ออกญาให้เขาสาบานต่อหน้าว่าจะเลิกลักขโมยไม่ว่ายากดีมีจนเพียงใดจะใช้สองมือแลกเหงื่อทำงานด้วยสุจริต ไม่เช่นนั้นตนจะกลับมาตัดมือเขาทิ้งไม่ต้องหยิบฉวยของใครอีก
“ข้าสัญญา ข้าไม่เป็นหัวขโมยแล้ว” หัวขโมยยกมือไหว้อีกครั้งด้วยความหวาดกลัว ออกญาหยิบเงินในชายพกโยนให้ เขารับเงินไว้แล้ววิ่งปรู๊ดออกไป
ออกญาปรายตามาทางเจ้าฟ้าทิพฉายในคราบหญิงชาวบ้าน เตือนว่าทีหน้าทีหลังอย่าใส่เครื่องทองล่อตาล่อใจอีก
นิ่มมองเขาอย่างปลื้มปริ่ม ขณะที่เจ้าฟ้าทิพฉายไม่พอใจรู้สึกเหมือนโดนดุ
“เครื่องทองของเราเราพึงใจใส่ ท่านควรด่าว่ามันที่ลักของผู้อื่น”
“มันทำเพราะจำเป็นดอก ยามบ้านเมืองมีแต่ศึกนอกกำแพงเมือง พวกเจ้าควรรู้ ศึกสงครามเปลี่ยนคนเป็นสัตว์ร้ายมานักต่อนักแล้ว” ออกญาพิชิตแสนพล
ไม่สนใจต่อความกับหญิงสาวอีก ชักม้ามุ่งหน้าไปทางวังหลวง
“ตาต่ำนะเพคะ ถ้ารู้ว่าต่อปากอยู่กับเจ้าฟ้าทิพฉาย พระธิดากษัตริย์ คงรีบลงจากหลังม้า หมอบกราบลงแทบพระบาท” นิ่มทำเป็นค่อนแคะแต่ใจจริงพึงพอใจในตัวออกญาผู้นี้นัก
ooooooo