ตอนที่ 11
กิฟท์สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เหงื่อท่วมตัวหายใจหอบ มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าตัวเองฝันไป ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงฝันเห็นหยาด เธอพยายามตั้งสติสะบัดหัวไล่ความคิดเรื่องนี้ออกไป แต่แล้วเหลือบไปเห็นกำไลโบราณวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง หยิบขึ้นมาดู ค่อยๆหมุนไปรอบๆ
พลันกิฟท์ระลึกชาติได้ เห็นตัวเองกลายเป็นคุณกำไลมองกำไลวงนั้นในมือตัวเองอย่างพึงพอใจ หยาดเอาถาดใส่ของว่างมาวางให้ เธอหันมาถามความเห็นจากบ่าวคนสนิทว่าควรจะรับหมั้นคุณพระวนาเทพดีไหม
“ดีสิเจ้าคะ คุณกำไลของบ่าวมีความรักอยู่ในแววตา บ่าวไม่เคยเห็นแววตาของคุณกำไลงดงามเท่าเวลาที่เจอคุณพระมาก่อน” หยาดสนับสนุนเจ้านายเต็มที่
นอกจากนี้ กิฟท์ยังระลึกชาติเห็นตัวเองตอนถูกหยาดวางยาพิษ คุณพระวนาเทพเข้ามาประคองเธอไว้สีหน้าหมดหวังที่เห็นลูกสาวทั้งสองคนสิ้นใจส่วนเธอใกล้เสียชีวิตเต็มที เธอกล่าวลาเขา วาสนาของเราสองคนผูกพันกันมาแค่นี้ เขาคร่ำครวญว่าอย่าเพิ่งจากเขาไป เธอถอดกำไลที่เขาให้ยัดใส่มือเขา
“น้องทรมานมานานเหลือเกินกับวาจาที่พี่เคยให้สัญญาจะรักเพียงน้องคนเดียวไม่เหลียวแลหญิงอื่น แต่คุณพี่ก็ผิดสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นับจากนี้ขอให้เราสิ้นสุดต่อกันอย่าเหลือแม้แต่รอยอาลัย น้องจักไม่จดจำชีวิตและความรักที่เคยมอบให้คุณพี่อีก แม้ชาติหน้า
มีจริง น้องขอเกิดมาไม่รู้จักความรัก ไม่มอบความรักให้ใครมากกว่าตัวเองเพราะน้องได้รับรู้ความเจ็บปวดของมันในชาตินี้อย่างแสนสาหัสแล้ว”
“กำไลพี่ขอโทษ พี่ผิดเอง แม้นเจ้าจักให้พี่ทำอันใดพี่จักยอมทุกอย่างให้สมกับที่ทำเจ้าเจ็บ”
“ขอให้เราสิ้นรักสิ้นสุขสิ้นทุกข์ สิ้นวาสนาต่อกันเสียที หากชาติหน้ามีจริง น้องขอให้พี่ไม่สามารถที่จะรักหญิงใดอีกเลย” พูดได้แค่นั้นคุณกำไลกระอักเลือด สิ้นใจ
กิฟท์ตื่นจากภวังค์ มองกำไลโบราณในมือ รีบโยนทิ้งไปไกลๆตัวสีหน้าหวาดหวั่น
ooooooo
วิษณุโทษว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับคนรอบข้างเป็นความผิดของตัวเอง แม้กระทั้งการตายของยุพดี เขาเข้าไปขอโทษฝนกับเดือนอย่างรู้สึกผิด ฝนไม่เข้าใจเขาจะขอโทษทำไมการตายของแม่ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย
“เกี่ยวสิฝน ถ้าแม่ไม่ไปกองถ่ายของณุก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุ”
ฝนขอร้องวิษณุอย่าพูดแบบนี้และไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สบายใจอยู่ดี