ตอนที่ 1
พอหันกลับมาก็แปลกใจเมื่อเห็นสร้อยทองเดินมากับสร้อยสน สร้อยทองพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจเร่งให้สร้อยสนเดินเร็วๆ พอเห็นพยาบาลออกมาจากห้องฉุกเฉินก็ปราดเข้าไปถามว่าสามีตนอยู่ห้องนี้ใช่ไหม พยาบาลถามว่าหมายถึงคุณเฟื่องใช่ไหม
สร้อยทองบอกทันทีว่าใช่ สร้อยสนรีบถามอย่างเป็นห่วง
“คุณลุงเป็นยังไงบ้างคะ ปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะ”
“ใจเย็นๆนะคะ คุณหมอกำลังพยายามรักษาอยู่ เดี๋ยวต้องรอคุยกับคุณหมอค่ะ ดิฉันขอตัวก่อน”
พยาบาลตอบแล้วรีบเดินไป สร้อยทองมองตามบ่นอย่างไม่พอใจว่าลีลาเหลือเกิน บอกหน่อยก็ไม่ได้ว่าอาการเป็นยังไง สร้อยสนบอกแม่ว่าเบาๆหน่อยเดี๋ยวเขาได้ยิน
“ได้ยินแล้วจะทำไม” สร้อยทองเสียงดังอย่างไม่แยแส หันมองไปรอบๆถามว่า “แล้วนี่ไอ้คนที่ชนมันหายหัวไปไหน แม่บอกแล้วว่าให้เร็วๆ ป่านนี้มันคงหนีไปแล้วมั้ง เลวจริงๆ เจ็บตัวแล้วยังต้องมาเสียเงินอีก แล้วนี่ถ้าคุณเฟื่องเขาเกิดพิการขึ้นมาฉันไม่แย่เหรอ...โอ๊ย...แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว”
สร้อยสนบอกว่าแม่อย่าเพิ่งคิด คุณลุงอาจจะบาดเจ็บนิดหน่อยก็ได้ ชวนไปนั่งรอกันก่อนดีกว่า
ทัฬห์ได้ยินทั้งหมด เขาเดินเข้าไปหาทั้งสอง เอ่ยเรียบๆจริงใจว่า
“ขอโทษนะครับ ผมเป็นคนที่ขับรถชนคุณเฟื่องครับ”
สร้อยทองมองทัฬห์ที่ถอดเสื้อสูทออกแล้ว
แต่หัวจดเท้า ลุกพรวดเผชิญหน้ากระชากเสียงอย่างไม่เกรงใจว่าขับรถประสาอะไร ถ้าสามีตนเป็นอะไรไปเขาจะรับผิดชอบไหวไหม
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมรับรองว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง”
สร้อยทองหางตามองอย่างไม่เชื่อ บอกให้เขาถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและเขียนที่อยู่ที่ทำงานและหาคนมารับรองด้วยเผื่อหาตัวไม่เจอจะได้เอาเรื่องกับคนที่มารับรอง
ทัฬห์ดึงกระเป๋าเงินจากกระเป๋าหลังกางเกงหยิบนามบัตรยื่นให้บอกว่านี่คือนามบัตรของตน สร้อยทองปรายตามองไม่เชื่อว่าเป็นของเขา จนสร้อยสนเรียกแม่เตือนสติ ก็ถูกย้อนถามว่า “ทำไม ฉันพูดผิดตรงไหน”
“ผมรับรองด้วยเกียรติทั้งหมดที่มีว่าทุกอย่างในนามบัตรใบนี้เป็นความจริงครับ คุณสามารถตรวจสอบได้”
ทัฬห์ส่งนามบัตรที่ด้านหนึ่งเป็นรูปโรงแรมพฤทธานนท์
สร้อยทองมองแว่บเดียวก็เปรยว่า “อ๋อ ทำงานโรงแรมพฤทธานนท์ ก็ยังดีที่มีงานทำ” สร้อยสนเรียกแม่เบาๆอีกครั้งและมองทัฬห์อย่างเกรงใจ
พลางพลิกนามบัตรอีกด้านดู เห็นรูปทัฬห์อยู่มุมหนึ่งอ่านเบาๆ
“ทัฬห์ พฤทธานนท์...ทำไมนามสกุลเดียวกับชื่อโรงแรม” อ่านต่อแล้วอุทาน มองหน้าทัฬห์อย่างตกใจ “เอ๊ะ...กรรมการผู้จัดการ”
ทัฬห์มองสร้อยสนนิ่งๆ เหมือนเดิม...
ooooooo
นักเรียนจากขบวนพาเหรดสีกลับเข้าโรงยิมที่แปลงเป็นห้องพัก บรรยากาศค่อนข้างชุลมุน เพื่อนๆของเฟื่องลดาพากันเข้ามาชมและแสดงความยินดี กานดาฟันธงว่าสีเราต้องได้ขบวนพาเหรดที่หนึ่งชัวร์
ขณะนั้นเอง อาจารย์ท่านหนึ่งเดินเข้ามามองหาแล้วกวักมือเรียกเฟื่องลดาไปหา เฟื่องลดาเดินไปหาอาจารย์ฟังอาจารย์พูดแล้วอุทานตกใจ
“พ่อ...”
อาจารย์บอกให้ใจเย็นๆ แต่เฟื่องลดาวิ่งเตลิดออกไปแล้ว กานดาถามอาจารย์ว่ามีอะไรหรือ
“คุณพ่อของลดาโดนรถชน ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินจ้ะ”
ทุกคนตกใจมองหน้ากันอึ้ง