ตอนที่ 12
ลัคนัยพยายามอดทนต่อท่าทางเย็นชาของภรรยาแต่เหมือนชนกไม่รู้สึกตัว ยิ่งนุชนารถส่งข้อความบอกอาการนิ่มนวลหลังรักษาด้วยคีโมบำบัดยิ่งร้อนใจเพราะแม่สามีกินอะไรไม่ได้เลย
เหมือนชนกเหม่อลอยจนลัคนัยที่พามาเลือกแผ่นเสียงให้ลูกในท้องหงุดหงิด เอ่ยเสียงแข็ง
“ผมถามว่าโมสาร์ทหรือบีโธเฟนดี”
“ชอบอันไหนก็เอาอันนั้นสิ จะมาถามฉันทำไม”
“ผมถามคุณเพราะจะซื้อให้ลูกฟัง มันช่วยเสริมพัฒนาการด้านความฉลาดและอารมณ์”
“อันไหนก็ได้แต่เน้นเรื่องอารมณ์จะดีมาก ออกมาจะได้ไม่ขี้หงุดหงิดเหมือนพ่อ”
“จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงครับ ชวนมาซื้อของให้ลูกแต่คุณเอาแต่เล่นโทรศัพท์”
“ก็ฉันมีธุระ”
“ครับ...ธุระอะไรก็สำคัญกว่าทั้งนั้นแหละ...ก็ลูกผมคนเดียวนี่เนอะ”
พูดจบก็ฮึดฮัดผละไป ทิ้งเหมือนชนกให้มองตามหลังงงๆ
“ใครท้องกันแน่เนี่ย!”
ooooooo
เหมือนชนกไม่ได้ตามง้อลัคนัยแต่แวะไปหามาลินีเพื่อรายงานอาการของนิ่มนวล
“หมอบอกว่าให้คีโมแรกๆก็จะทรมาน หน้ามืดอาเจียน เบื่ออาหาร แต่ถ้าได้ผลดีคุณแม่อาจอยู่ได้อีกหลายปี”
มาลินีถอนใจยาว รู้สึกผิดไม่หายเมื่อคิดถึงอดีต “หลายปีที่ว่ามันกี่ปีกันล่ะ...ต่อให้มีเวลานานแค่ไหนก็ไม่พอหรอกสำหรับคนที่คิดถึงเขามาหลายปี...แล้วนี่ไม่คิดจะบอกนัยจริงๆเหรอ”
“คุณยายเป็นคนที่สองแล้วค่ะที่ทักนกแบบนี้ นกอยากบอกนัยนับตั้งแต่นาทีแรกที่เจอคุณแม่ แต่นกกลัวเหลือเกินค่ะว่าถ้านกฝืนใจคุณแม่ตอนนี้มันจะทำให้ท่านหนีไปอีก”
เหมือนชนกอึดอัดใจมากที่ต้องปิดความลับเรื่องนิ่มนวลจากลัคนัย ต้องพยายามให้กำลังใจตัวเอง
“ตอนนี้นกทำให้คุณแม่ยอมรับการรักษาได้ อีกไม่นานนกจะต้องโน้มน้าวให้ท่านยอมไปพบนัยให้ได้”
เพราะความกังวลเรื่องนิ่มนวลทำให้เหมือนชนกยิ่งเฉยชา ลัคนัยจับอาการได้แต่ไม่ถือสา ตั้งหน้าตั้งตาดูแลเหมือนเคย แต่คุณหนูขี้วีนก็อารมณ์ไม่ดีและเหวี่ยงใส่จนเขางอนหนัก!
ธวัชกับไพพรรณต้องช่วยกันเตือนสติเหมือนชนกว่าลัคนัยจู้จี้และอารมณ์อ่อนไหวผิดปกติเพราะแพ้ท้องแทนเธอ เหมือนชนกเลยเพิ่งรู้ตัวว่าทำเกินกว่าเหตุและรีบตามไปง้อถึงเรือนหลังเล็ก
เสียงเพลงคลาสสิกที่ดังกระหึ่มเรือนหลังเล็กทำให้ลัคนัยนิ่วหน้าแปลกใจ เมื่อไปดูในห้องนอนจึงเห็นเหมือนชนกนอนฟังเพลงอย่างสบายใจ
“คุณแอบซื้อแผ่นมาเหรอ”
“เปล่า...ยืมคุณพ่อมา ขานั้นเขามีเยอะแยะไม่รู้จักไปถาม”
ลัคนัยอดค้อนไม่ได้แต่กระนั้นก็หายเคืองไปมากแล้ว
“จริงๆคุณไม่ต้องเปิดเพลงดังขนาดนี้ก็ได้นะครับ เดี๋ยวบ้านใหญ่เขาจะคิดว่าเราเปิดเผื่อ”
“ก็เปิดเผื่อไง เผื่อใครบางคนไม่ได้ยิน เห็นว่าแผ่นนี้ช่วยพัฒนาการด้านอารมณ์”
“อารมณ์ดีขึ้นมากแล้วครับ แต่กลัวว่ากว่าคุณลูกจะได้ยิน คุณแม่จะหูหนวกซะก่อน...รอแป๊บนึงนะครับ”
พูดจบลัคนัยก็คว้าหูฟังมาแตะท้องภรรยาพร้อมอธิบาย “การรับรู้เสียงของเด็กในท้องจะได้ยินผ่านการสั่นสะเทือนของวัตถุ ดังนั้นต้องให้เขาฟังแบบนี้ ตอนนี้เขาอาจจะยังนิ่งๆแต่อีกไม่กี่เดือนเขาจะเริ่มแดนซ์”
“เพลงคลาสสิกใครเขาแดนซ์กัน พูดเองเออเอง”
“ก็ลูกผมไงครับ...ไม่สิ...ลูกเรา”
ลัคนัยอ้อนเสียงหวานและขออนุญาตคุยกับลูกในท้อง เหมือนชนกพยักหน้าราวกับตกในมนต์สะกด ก่อนสะดุ้งเมื่อเห็นเขาจดริมฝีปากกับหน้าท้องเธอ