ตอนที่ 18
แต่แล้วอาริสานึกอะไรได้เอามือกุมท้องตัวเอง พูดออกมาเสียงแผ่ว
“หมอ...ลูก...”
หมอเอกรีบตอบให้อาริสาสบายใจ “ลูกปลอดภัยนะริสา”
สองมือของอาริสายังกุมท้องตัวเองด้วยความโล่งใจ ดีใจ...แล้วคิดถึงป้องกุลด้วยหัวใจที่แตกสลาย เปล่งเสียงถามออกไปทั้งที่มีความหวังน้อยนิดเต็มที
“แล้วพ่อของเขาล่ะคะ”
หมอเอกเสียใจจนพูดไม่ออก อาริสามองอาการนิ่งเงียบของเขาแล้วร้องไห้โฮออกมาทั้งที่สองมือยังกุมท้อง...หวังให้ลูกเป็นกำลังใจ
หมอเอกมองอาริสาร้องไห้อย่างเจ็บปวดและเสียใจไม่แพ้กัน ค่อยๆเข้าไปกอดปลอบเธอ
“มันไม่มีปาฏิหาริย์ใช่ไหมคะ”
หมอเอกพูดไม่ออก...ได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ทำไมเขาถึงทิ้งริสากับลูกไป”
“ป้องไม่ได้ทิ้งริสา...” หมอเอกวางมือตัวเองบนมืออาริสาที่อยู่บนท้อง เอ่ยอย่างอ่อนโยน “ป้องไม่ได้ไปไหน ป้องยังอยู่...ทั้งเลือดเนื้อและหัวใจของป้องยังอยู่กับริสา”
อาริสาก้มมองท้องตัวเองอย่างเจ็บปวดร้าวรานใจ ร้องไห้โดยมีหมอเอกกอดปลอบตลอดเวลา
หลังจากนั้นปรับอารมณ์และปรับสภาพจิตใจกันอีกสักครู่ หมอเอกก็พาอาริสาออกจากห้องผู้ป่วยด้วยการเข็นรถที่เธอนั่งออกไปยังมุมร่มรื่นในโรงพยาบาล
“ออกไปสูดอากาศนอกห้องบ้างเผื่อจะทำให้ริสาผ่อนคลายลงบ้างนะ”
อาริสาจับมือหมอเอกให้หยุดเข็น ถามว่า
“หมอคะ ตอนนี้ศพป้องอยู่ไหนคะ”
หมอเอกมองอาริสาอย่างห่วงใย เดินมานั่งคุกเข่าข้างๆเธอพร้อมให้คำตอบ
“ยังอยู่ที่โรงพยาบาล รอเกศรักษาตัวให้ดีก่อน แล้วค่อยรับป้องไปวัด”
อาริสาฟังหมอเอกพูดถึงวาระสุดท้ายของป้องกุลแล้วยิ่งเจ็บ มือกุมท้องไว้เหมือนกับยึดลูกเป็นกำลังใจ
“แล้วตอนนี้เกศเป็นยังไงบ้างคะ”
หมอเอกนิ่งเงียบไปด้วยความกังวลเรื่องสภาพจิตใจของเกศิริน
ooooooo
เวลานั้นเกศิรินนอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยอีกห้อง สายตาเธอเหม่อลอย ใจสลาย ภาพเหตุการณ์ลูกชายตายยังวนเวียนไปมาอยู่ในหัว
หลายเหตุการณ์ที่ทำให้เธอยิ่งคิดก็ยิ่งสะเทือนใจ ป้องกุลเคยปลอบใจเธอเมื่อครั้งผิดหวังจากหมอเอกว่าแม่ยังมีตนอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งเธอเองที่ทำให้ลูกเสียใจและโดนเขาต่อว่า
“ถ้าแม่กลับมาแล้วทำให้ชีวิตผมเป็นแบบนี้ ผมไม่ต้องการ”
จนกระทั่งเหตุการณ์วันสุดท้ายที่ป้องกุลต้องจากไปเพราะรถระเบิดซึ่งเธอเห็นต่อหน้าต่อตาแต่ช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย...
วันนี้เกศิรินนอนร้องไห้โฮทั้งเจ็บทั้งรู้สึกผิด ในสมองคิดแต่ว่าตัวเองไม่เคยเลี้ยงลูก ทิ้งลูกแล้วยังทำลายความสุขของลูก และเป็นคนนำลูกไปสู่ความตาย...
อีกหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...
งานฌาปนกิจศพป้องกุลที่วัดแห่งหนึ่งมีรูปของเขาและพวงหรีดวางที่หน้าเมรุ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า อาม่า อธิป อาริสา หมอเอก และเขมนั่งอยู่ในศาลาด้วยอาการเงียบสงบ สีหน้าหม่นหมอง ถัดไปเป็นญาติสนิทที่มีไม่มากต่างอยู่ในอารมณ์สูญเสียเช่นเดียวกัน
เสียงกริ่งสัญญาณเริ่มการฌาปนกิจดังขึ้น...
กลุ่มของอาม่ามองไปทางเมรุอีกครั้งด้วยหัวใจที่แตกสลาย อาม่าอาลัยรักหลานชายจนแทบจะลุกเดินไม่ไหว แต่แล้วสูดลมหายใจลึก ตั้งหลักลุกขึ้นพยายามเข้มแข็ง ถามอธิปว่า
“แล้วแม่เขาไม่มาส่งลูกเหรอ”
อธิปไม่ตอบเพราะไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ข่าวเกศิริน เลยหลังจากเกิดเรื่อง
“ไป...ไปส่งป้องขึ้นสวรรค์กัน” พูดจบอาม่าจับมือลูกชายเดินไปที่เมรุ
หมอเอกพยุงอาริสาลุกขึ้นเดินตามโดยมีเขมประกบข้างเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
อาม่าถือดอกไม้จันทน์มายืนมองรูปป้องกุลนิ่ง นัยน์ตาแดงก่ำ เอ่ยเสียงสั่นเครือสะเทือนใจ
“ป้อง...หลับให้สบายนะลูก ไม่ต้องห่วงอาม่า เพราะอีกไม่นานเราก็คงได้กอดกันอีก”
พูดจบอาม่าวางดอกไม้จันทน์และกลั้นน้ำตาไม่อยู่ อธิปต้องเข้ามากอดประคองแม่ไว้
“ม้าไม่เป็นไร...วางดอกไม้จันทน์ลาลูกซะ ทำหน้าที่พ่อเป็นครั้งสุดท้าย”
อธิปทำตามที่แม่บอก...วางดอกไม้จันทน์พร้อมพูดกับรูปของลูกชาย
“พ่อขอโทษ...ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยดูแลป้องเลย แต่พ่อก็อยากให้ป้องรู้ไว้นะ พ่อไม่เคยเห็นป้องเป็นคนอื่น ยังไงป้องก็เป็นลูกของพ่อ”
เสร็จแล้วอธิปประคองอาม่าที่หลั่งน้ำตาไปหลบตรงมุมหนึ่งบนเมรุเพื่อให้อาริสาเข้ามา
อาริสาเดินมายืนหน้ารูปป้องกุลโดยที่หมอเอกยืนเยื้องไปด้านหลัง
“ฉันรู้ว่าเธอยังอยู่ใกล้ๆฉันกับลูก...ฉันอยากให้เธออยู่ข้างๆฉันตลอดไป แต่ฉันไม่อยากทำให้เธอเป็นห่วง ฉันอยากให้เธอไปภพภูมิที่ดี ไปตามทางที่เธอควรจะไปเถอะ เธอก็รู้ว่าฉันเก่ง ฉันดูแลตัวเองกับลูกได้ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น การเจอกันของเราสองคนมันไม่ใช่การเล่นเกม แต่มันเป็นโชคชะตา... เพราะเกมทำให้ฉันรักเธอทั้งหัวใจอย่างนี้ไม่ได้”
อาริสาพูดทั้งน้ำตานองหน้า หมอเอกมองเธออย่างเข้าใจ...อาริสาวางดอกไม้จันทน์บนพานแล้วพูดกับรูปป้องกุลอีกครั้ง
“ฉันจะเลี้ยงลูกของเราให้ดีที่สุด ถึงเธอไม่อยู่... แต่ลูกจะไม่ขาดความรัก ฉันจะรักเขาเหมือนที่เธอรักฉัน เขาจะรู้ว่าพ่อเขารักเขามาก...ฉันสัญญา”
อาริสาเอื้อมมืออันสั่นเทาลูบรูปป้องกุลอย่างเจ็บปวด โหยหา สุดอาลัย...แล้วตัดใจหันหลังเดินลงจากเมรุไปเพราะไม่อยากให้เขามีห่วง ส่วนหมอเอกขยับเข้ามายืนตรงหน้ารูปป้องกุลแทน เอ่ยอำลา เป็นครั้งสุดท้าย