ตอนที่ 18
“ใช่ แล้วตกลงเขาโอเคกันรึยัง”
“หนูไม่รู้ค่ะ”
“อ้าว ไม่ได้เรื่อง ไปๆๆ จะไปไหนก็ไป”
สนเดินหอบเหนื่อยออกไป อาม่าชะเง้อมองบนบ้านอย่างอยากรู้เต็มแก่
ooooooo
ภายในห้องนอน ป้องกุลยังคร่อมตัวอาริสา บนเตียง เมื่อเห็นเธอนิ่งอึ้งไม่มีทีท่าว่าจะหนีเขาจึงยอมปล่อยมือที่ล็อกเธอไว้ อาริสาเป็นอิสระก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมตั้งคำถาม
“ทำไมหมอถึงบอกเธอ”
“เพราะหมอรู้ว่าริสารักใครไง...ริสา ก่อนที่ชีวิตผมจะเจอคุณ ผมไม่รู้ว่าผมมีชีวิตไปเพื่ออะไร แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่าผมต้องอยู่เพื่อใคร อย่าไล่ผมอีกเลยนะ อย่าทิ้งผมอีกเลย ขอให้ผมได้รักลูก สอนลูกให้รู้จักความรักเหมือนที่แม่ของเขาเคยสอนผมเถอะนะ”
ป้องกุลวิงวอนขอร้อง จับมืออาริสามากุมไว้อย่างแสนรัก อาริสาเหมือนยังลังเล...แต่แล้วก็ยื่นอีกมือ มาสัมผัสมือเขา ถามว่ารู้ใช่ไหมว่าตนอายุเท่าไหร่ รู้ใช่ไหมว่าตนแก่กว่าเขาเยอะ และรู้ใช่ไหมว่าเขากำลังจะมีเมียแก่มาก
ป้องกุลตอบหนักแน่นว่ารู้ทุกอย่าง อาริสายิ้มบางๆ ถามต่อไปอีกว่า
“รู้ใช่ไหมว่าถ้าเธอกอดฉันตอนนี้ เธอจะปล่อยฉันอีกไม่ได้...แล้วรู้ใช่ไหมว่าถ้าเธอทิ้งฉันฉันจะฆ่าเธอ”
“รู้” ป้องกุลตอบยิ้มๆ รู้ว่าอาริสาใจอ่อนแล้ว
“ฉันจะให้โอกาสเธอตัดสินใจอีกครั้ง”
“ผมไม่อยากได้โอกาสตัดสินใจ แต่ผมอยากได้โอกาสเป็นผู้ชายที่ริสารักอีกครั้ง...ได้ไหม?”
อาริสาไม่ตอบแต่สวมกอดเขาด้วยความรักสุดหัวใจ ป้องกุลดีใจมากกอดตอบแน่นให้อาริสารู้ว่า เขาจะไม่ปล่อยเธอไปไหนอีกแล้ว...
เวลานั้นอาม่ายืนชะเง้ออยู่หน้าบ้านพัก เห็นรถคันหนึ่งแล่นตรงมาจอดหน้าบ้านหลังที่ป้องกุลอยู่ก็บ่นพึมพำสงสัยว่ารถใคร?
เกศิรินนั่นเอง!! เธอลงจากรถเดินเข้าบ้าน
แต่ไม่เห็นใครสักคน ตัดสินใจจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน แต่ทันใดได้ยินเสียงอาม่าตะโกนมาจากทางบ้านหลังเล็ก
“มาทำไม?”
เกศิรินวางหน้านิ่งทักทายอาม่าตามปกติ “สวัสดีค่ะอาม่า เกศมาหาป้องค่ะ”
อาริสากับป้องกุลนอนกอดกันบนเตียงได้ยินเสียงคนพูดดังแว่วๆจากชั้นล่างก็ชะงัก สงสัยว่าเสียงใคร?
อาม่ามองหน้าเกศิรินอย่างขุ่นเคือง ไม่ทันจะพูดอะไรต่อหมอเอกขับรถเข้ามาจอดแล้วรีบลงมายกมือไหว้อาม่า เกศิรินไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด ทำท่าจะเดินขึ้นบันไดแต่อาม่าก้าวมาขวางดักไว้
“ป้องไม่อยู่ที่นี่”
“อาม่าจะช่วยหลานแย่งเมียคนอื่นเหรอคะ”
“ริสาไม่ใช่เมียผมแล้ว ผมเซ็นใบหย่าให้ริสาแล้ว”
“ได้ยินแล้วใช่ไหม ป้องไม่ได้แย่งเมียใครเหมือนที่เธอแย่งผัวคนอื่น”
“อาม่า!!” เกศิรินแผดเสียง
“เห็นฉันเฉยๆไม่ได้แปลว่าฉันหูหนวกตาบอดนะ ฉันรู้ทุกอย่างว่าตั้งแต่เธอทิ้งป้องไปเธอนอนกับผู้ชายอีกกี่คน”
“ก็เพราะหนูมีผัวเฮงซวยอย่างลูกชายอาม่าไงคะ ชีวิตหนูถึงต้องเป็นแบบนี้”
“ฉันก็มีผัวเฮงซวย ฉันเลี้ยงลูก ทำงานคนเดียว ทำไมฉันถึงไม่ทำตัวอย่างเธอ เพราะมันไม่เกี่ยวหรอกว่าเธอมีผัวดีหรือผัวเฮงซวย ที่เธอนอนกับผู้ชายไม่เลือกเพราะความคัน ทะเยอทะยานอยากได้อยากมี ของเธอ”
“หยุดนะอาม่า อาม่าไม่ใช่แม่หนู หนูยังเคารพเพราะเห็นว่าเป็นคนเลี้ยงลูกหนูมา แต่ตอนนี้หนูกลับมาดูแลลูกหนูแล้ว ปล่อยลูกหนูคืนมา”
“ดูแลเหรอ ด้วยการจ้างคนไปกระทืบลูกตัวเอง เนี่ยนะ ออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว...ไป๊!!”
“ถ้าหนูไป ลูกต้องไปกับหนูด้วย”
เกศิรินดึงดันจะขึ้นบันได อาม่าดึงไว้สุดแรง ขณะที่หมอเอกก็ช่วยจับเกศิรินไว้ด้วย
“พอเถอะเกศ คุณไม่ได้ห่วงลูก คุณกำลังเอาชนะริสา ถ้าคุณรักลูก คุณต้องปล่อยเขา”
“คุณอยากโง่ปล่อยเมียคุณก็เรื่องของคุณ แต่ฉันไม่ปล่อยลูกฉัน ริสาไม่มีวันได้ลูกของฉัน”
เกศิรินสะบัดตัวและผลักหมอเอกอย่างแรงแล้วจะวิ่งขึ้นบันได แต่อาม่ารีบขวาง
“ฉันบอกให้ออกไป”
ป้องกุลออกจากห้องมาพร้อมอาริสาเห็น
เกศิรินยื้อยุดกับอาม่าพอดี เกศิรินเห็นอาริสาก็ชี้หน้าตวาดเอาเรื่อง
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับลูกฉัน”
เกศิรินจะพุ่งไปหาอาริสาแต่อาม่าคว้าตัวไว้ สองคนยื้อยุดกันอีกครั้งก่อนที่เกศิรินจะผลักอาม่าตกบันไดกลิ้งลงมานอนหมดสติโดยไม่ตั้งใจ
ทุกคนตกใจมาก หมอเอกได้สติก่อนใคร
รีบมาดูอาม่า ป้องกุลวิ่งผ่านเกศิรินไปกอดอาม่าอย่างห่วงมากโดยมีอาริสาก้าวตามลงมาหน้าตาตื่น หมอเอกบอกว่าต้องรีบพาอาม่าไปโรงพยาบาล
“ป้อง...แม่ขอโทษ” เกศิรินเดินมาเกาะแขน ลูกชายอย่างรู้สึกผิด ป้องกุลเสียใจและเจ็บปวด
เกินกว่าจะอภัย โพล่งถามอย่างสุดทน
“แม่จะทำร้ายอะไรผมอีก ส่งคนมากระทืบผมเพื่อให้ผมเลิกยุ่งกับริสาแล้วยังจะมาทำอาม่าอีก”
เกศิรินอึ้งที่ลูกรู้ความจริง พูดทั้งน้ำตาว่าที่แม่ทำเพราะแม่รักลูก
“แม่ไม่ได้รักผม แม่รักตัวเองต่างหาก”
“เกศ...ปล่อยป้องก่อน เราต้องรีบพาอาม่าไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” หมอเอกเตือน แต่เกศิรินยังจับแขนป้องกุลอย่างอ้อนวอน
“ถ้าแม่กลับมาเพื่อทำให้ชีวิตผมเป็นอย่างนี้ ผมไม่ต้องการแม่แล้ว”
คำพูดประโยคนั้นของป้องกุลทำให้เกศิรินอึ้งงัน หัวใจแทบแตกสลายที่แม้แต่ลูกก็ไม่ต้องการ
ป้องกุลรีบอุ้มอาม่าไปที่รถโดยมีหมอเอกช่วยด้วย อาริสาตามติดอย่างร้อนใจ ทิ้งให้เกศิรินเดียวดาย ตอกย้ำความไร้ค่าและโดดเดี่ยวไม่มีใครต้องการ...
ooooooo
เช้าวันถัดมาอาม่ายังนอนไม่ได้สติ หมอและพยาบาลกำลังเช็กอาการหลังจากเพิ่งย้ายโรงพยาบาลจากอยุธยาเข้ามาในกรุงเทพฯ