ตอนที่ 18
“กินเร็วๆ ลูกหิว”
“ฉันจะไปนั่งที่อื่น”
ป้องกุลไม่ยอมปล่อย อาริสาทนไม่ไหวแหวลั่น
“จะมากเกินไปแล้วนะ”
เขาไม่สนใจ กอดเธอให้นั่งบนตัก แถมเตือนให้นั่งดีๆเดี๋ยวกระทบกระเทือนลูก ถามว่าไม่ห่วงลูกเหรอ?
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเอาลูกมาพูด”
ป้องกุลอมยิ้ม ตักอาหารจ่อที่ปากจนเธอเลี่ยงไม่ได้ แต่ความจริงหิวไส้กิ่วเลยหมดฟอร์ม
“อร่อยมั้ย”
“ไม่” อาริสาตอบสวน ป้องกุลรู้ว่าเธอโกหกเลยแกล้งจะทิ้งอาหาร เธอรีบดึงจานไว้อ้างว่าเสียดายของ
“ให้ป้อนมั้ย”
“ไม่! ฉันท้อง ไม่ได้ป่วย กินเองได้”
อาริสาแย่งช้อนจากมือเขามาตักอาหารกินเองตุ้ยๆ ป้องกุลมองอย่างเอ็นดู เห็นข้าวติดปากก็ยื่นหน้าไปจูบตรงเม็ดข้าวที่ติดริมฝีปากจนอาริสาผงะตกใจตั้งท่าจะโวย แต่เขาชิงพูดเสียก่อนว่า
“ผมเช็ดปากให้ ข้าวติดปาก”
“ทิชชูก็มี”
“ก็ผมอยากใช้ปากเช็ด”
อาริสาวางช้อนอย่างเหลืออด อยากรู้ว่าทำอย่างนี้ทำไม ป้องกุลแกล้งถามหน้าซื่อ
“เช็ดปากด้วยปากน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่...หลอกฉันมาทำไม”
“ริสาไม่เข้าใจจริงๆเหรอ”
“ฉันส่งคนไปกระทืบเธอ เธอไม่จำใช่ไหม”
“ริสาว่าผมหลอก ริสาก็หลอกผม”
อาริสาดันตัวเขาออกแล้วรีบลุกยืนพร้อมถามว่าตนหลอกอะไร?
“ผมรู้ว่าริสาไม่ได้ทำ”
ป้องกุลไม่พูดเปล่า แต่เดินมาประชิดตัวแล้วจูบปิดปากอย่างเร็วก่อนที่เธอจะอ้าปากเถียง
“อย่าเถียง”
อาริสาโกรธและไม่ยอมแพ้ ทำท่าจะด่าแต่ป้องกุลยื่นหน้ามาจูบปากเธออีก
“เถียงอีก...ผมก็จูบอีก”
“นี่!! เลิกทำอย่างนี้สักที เธอจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเธอ”
“แม่ให้พ่อจ้างคนมากระทืบผม แล้วบอกว่าริสาเป็นคนทำ”
โดนเขายิงตรงแบบนี้อาริสาถึงกับอึกๆอักๆ
พูดไม่ออก
“ผมไม่รู้จะเสียใจที่พ่อแม่จ้างคนมากระทืบผมดี หรือเสียใจที่ริสาก็เห็นด้วยกับที่พ่อแม่ผมทำ”
“เธอก็สมควรโดนแล้วนี่ เธอจะได้เลิกยุ่งกับฉัน”
“แล้วมันทำให้ผมเลิกยุ่งได้ไหมล่ะ”
“พาฉันกลับกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้”
“เราต้องคุยกันเรื่องลูกก่อน”
“ฉันไม่คุย” พูดแล้วจะเดินหนี ป้องกุลไม่รอช้า คว้าตัวเธอไว้ แต่คราวนี้เธอดิ้นรนไม่ยอมง่ายๆ แถมยังกัดแขนเขาก่อนวิ่งหนีเข้าห้องนอนเพราะไม่รู้จะหนีไปทางไหนที่ดีกว่านี้
ป้องกุลเจ็บแขนแต่ก็รีบแทรกตัวเข้ามาในห้องนอนได้ก่อนที่อาริสาจะปิดประตูสนิทพร้อมส่งเสียงตัดพ้อ
“กัดแล้วหนี ใจร้ายจัง”
“สมควร!!”
“เลือดออกแล้วเนี่ย มารับผิดชอบเลย”
“ไม่!!”
“ถ้าคุณอยากทำให้ผมเจ็บ ผมเจ็บแล้ว เจ็บทั้งตัวทั้งใจ แต่มันทำให้ผมเกลียดคุณไม่ได้”
อาริสาใจอ่อน...แต่เพียงวูบเดียวก็หักห้ามใจตัวเองหันหน้าหนีจะไปทางห้องน้ำ ป้องกุลแกล้งล้อ
“ไม่กลัวตุ๊กแกเหรอ”
“บอกแล้วไงว่ากลัวเธอมากกว่า” พูดจบ
อาริสาหันมาผลักป้องกุลที่เดินตามหลังเข้าไปในห้องน้ำแล้วดึงประตูปิดอย่างเร็วก่อนไปลากเก้าอี้มาขวาง
ดันเอาไว้
“อยู่กับตุ๊กแกดูบ้างสิ จะได้รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง”
ooooooo
เมื่อเป็นฝ่ายโดนขังไว้ในห้องน้ำบ้าง ป้องกุลนึกสนุกแกล้งร้องหวาดกลัวตุ๊กแกและรบเร้าอาริสา ให้เปิดประตู
“ริสา...เปิดประตูเถอะ ยอมแล้ว ผมกลัวจริงๆนะ โอ๊ย! ขยะแขยง ขนลุก”
อาริสายิ้มสะใจแต่ยังไม่ยอมเปิดประตู พูดต่อรอง “รับปากสิ ถ้าฉันให้ออก เธอต้องพาฉันกลับกรุงเทพฯ”
“ได้ ผมรับปาก”
“แน่ใจนะว่าจะไม่หลอกฉันอีก”
“ผมพาคุณกลับกรุงเทพฯแน่นอน ไม่หลอกจริงๆ”
อาริสาโอ้เอ้อีกเล็กน้อยก่อนยอมเปิดประตู แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นป้องกุลจับตุ๊กแกหน้าตาเฉยไม่มีวี่แววว่ากลัวสักนิด
“เฮ้ย! ทำไม?” เธออุทานแค่นั้นก็นึกรู้ว่าโดนหลอกจึงเข้าไปทุบตีเขาอย่างหงุดหงิดโมโห “หลอกฉันอีกแล้วนะ มีอะไรที่ฉันเชื่อเธอได้บ้าง”
“โอ๊ย! ใจเย็นๆก่อน”
“พาฉันไปส่งกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้”
“ผมส่งแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
พูดขาดคำป้องกุลอุ้มอาริสาไปวางบนเตียงแล้วคร่อมตัวไว้เพื่อไม่ให้เธอหนีได้อีก
“ริสา...ผมขอร้อง ให้โอกาสผมหน่อยได้ไหม คุณทนเห็นลูกเรียกคนอื่นว่าพ่อได้จริงๆเหรอ”
“หมอไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นสามีฉัน เป็นพ่อของลูก เธอต่างหากที่เป็นคนอื่น...ปล่อยฉัน”
“ไม่ปล่อย ถ้าคุณไม่ยอมรับความจริง ผมก็จะกดคุณไว้อย่างนี้...ว่าผมเป็นเด็ก คุณนั่นแหละทำตัวยิ่งกว่าเด็ก ทั้งดื้อทั้งโกหก”
“ฉันไม่ได้โกหก เด็กเป็นลูกหมอ...ปล่อยฉันนะ”
“หมอบอกความจริงผมหมดแล้ว”
“อะไรนะ!”
“เด็กเป็นลูกผม ตั้งแต่หมอยุ่งกับแม่ผม หมอไม่เคยนอนกับคุณอีกเลย...ริสา ผมรักคุณนะ รักลูก ของเราด้วย ให้โอกาสผมดูแลคุณกับลูกเถอะนะ”
ป้องกุลส่งสายตาอ้อนวอนเต็มที่ แต่อาริสาฟังเขาพูดแล้วยิ่งเจ็บปวด บอกว่าตนทำอย่างนั้นไม่ได้
“ทำไม” เขาถามเสียงแผ่ว
“เพราะถ้าฉันเลือกเธอ แล้วแม่เธอล่ะ”
“แม่เคยทิ้งผม แล้วคุณกำลังจะให้ผมทิ้งลูกเหมือนที่ผมเคยโดนทิ้งเหรอ”
“แต่เขาเป็นแม่เธอ”
“แล้วผมต้องตอบแทนบุญคุณแม่ด้วยการทิ้งผู้หญิงที่ท้องลูกของผมเหรอ”
“แต่ฉันมีหมอที่ต้องดูแลความรู้สึกของเขา”
“หมอไม่อยู่กับคุณแล้ว”
“หมายความว่ายังไง”
“หมอเซ็นใบหย่ามาให้คุณแล้ว เหลือแค่คุณเซ็น คุณกับหมอก็ไม่เกี่ยวข้องเป็นสามีภรรยากันอีก”
อาริสาอึ้งอย่างคาดไม่ถึง...เวลาเดียวกันนั้นอาม่ายืนกระวนกระวายอยู่หน้าบ้านพักหลังใกล้กัน อยากรู้ว่าป้องกุลเคลียร์กับอาริสาได้หรือยัง พอเห็นสนวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาก็ถามทันที
“ตกลงสองคนนั้นโอเคกันรึยัง”
“โอย...ใจคออาม่าจะให้หนูวิ่งไปวิ่งมารายงานสถานการณ์แบบนี้ทั้งวันเลยเหรอคะ”